สปสช. ยันรพ.มเหสักข์ออกจากบัตรทอง ไม่กระทบผู้ป่วยกว่าแสนคนสธ.

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่โรงพยาบาลมเหสักข์ ซึ่งเป็น รพ.เอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งเตรียมออกจากการเป็นหน่วยบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ในเดือนตุลาคม 2560 ว่า หน่วยบริการภายใต้ระบบบัตรทอง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.หน่วยบริการของภาครัฐ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 กำหนดให้ต้องเป็นหน่วยบริการในระบบเพื่อดูแลผู้มีสิทธิ์ และ 2.หน่วยบริการเอกชน ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของหน่วยบริการเอกชนเองในการเข้าร่วมดูแลประชาชน โดยจะต้องเป็นหน่วยบริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่ สปสช.กำหนดเท่านั้น ซึ่งการเข้าออกจากระบบถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้นกรณีการออกจากระบบของ รพ.มเหสักข์จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ ทั้งยังไม่มีผลกระทบ เพราะเป็นการแจ้งล่วงหน้า เพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมในการรองรับ

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า กรณีของ รพ.มเหสักข์ เท่าที่ทราบขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงโรงพยาบาล ซึ่งอาจทำให้สถานที่ของ รพ.คับแคบลง และอาจส่งผลกระทบต่อการบริการได้ ดังนั้นจึงได้ขอออกจากระบบไป ซึ่ง สปสช.เขต 13 กทม.ได้มีการวางแผนและเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดสธ. และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้เป็นห่วงและได้ขอให้หน่วยบริการภายใต้สังกัดสธ. และ กทม.ที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยรองรับดูแลผู้มีสิทธิที่ขึ้นทะเบียน รพ.มเหสักข์ เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด

ทั้งนี้ในการบริการของ รพ.มเหสักข์ แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ 1.ระดับหน่วยบริการปฐมภูมิ มีประชากรผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนจำนวน 72,219 คน และ 2.ระดับหน่วยบริการรับส่งต่อ โดยเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อจากศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ซึ่งมีผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียน 13,732 คน และคลินิกเอกชนในระบบบัตรทองในพื้นที่ มีผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียน 27,464 คน ซึ่งประชาชนที่ขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิ์กับ รพ.มเหสักข์รวมกว่า 113,415 คน ไม่ต้องตื่นตระหนก เนื่องจากยังคงสามารถรับบริการได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 นี้ และหลังจากนั้น สปสช.จะมีการโอนย้ายผู้มีสิทธิที่ขึ้นทะเบียน รพ.มเหสักข์ไปรับบริการยังหน่วยบริการใกล้เคียงแทน ส่วนกรณีที่มีผู้มีสิทธิที่ขึ้นทะเบียน รพ.มเหสักข์ บางส่วนขณะนี้ได้เริ่มขอย้ายหน่วยบริการก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามหากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ผ่านทางสายด่วน สปสช. 1330 ได้

ทั้งนี้ ประชาชนที่มีสิทธิบัตรทองที่ รพ.มเหสักข์ ขอให้ดำเนินการดังนี้ 1.ประชาชนสิทธิเครือข่าย รพ.มเหสักข์ สามารถเข้ารับบริการที่เดิมได้ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 2.ประชาชนที่มีความประสงค์จะขอลงทะเบียนเปลี่ยนสิทธิใหม่ สามารถติดต่อขอลงทะเบียนเปลี่ยนสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ณ สถานที่ดังต่อไปนี้ รพ.มเหสักข์ (แผนกโอพีดีใหม่) ชั้น 2 ให้บริการตั้งแต่วันที่ 1-15 กันยายน 2560 เวลา 08.30 – 15.30 น. จุดรับลงทะเบียนบัตรทองที่สำนักงานเขต 27 เขต ที่เปิดให้บริการ ให้บริการในวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 –16.00 น. (สอบถามเขตที่เปิดให้บริการ โทร.1330 หรือตรวจสอบข้อมูลได้ที่http://bkk.nhso.go.th คลิ๊กเลือก สำหรับประชาชน เลือกแผนที่จุดรับลงทะเบียน 27 เขต) และจุดรับลงทะเบียนบัตรทอง ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ชั้น 1 ด้านข้างประชาสัมพันธ์ ให้บริการทุกวันเวลา 08.00 – 19.00 น.

ส่วนเอกสารการประกอบการลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการใหม่ ใช้สำเนาบัตรประชาชนเพียงใบเดียว กรณีที่เป็นเด็กใช้สูติบัตรเด็กและสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครอง

 


ที่มา : มติชนออนไลน์