กทม.แจง เร่งแก้ฝุ่นพิษช่วงอากาศปิดต่อเนื่อง หลังคนจวกไร้มาตรการป้องพีเอ็ม 2.5

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชี้แจงกรณีกรมควบคุมมลพิษ และกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าระหว่างวันที่ 13 – 15 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศปิด และมีผู้เสนอข้อวิจารณ์ว่าหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องเร่งวางมาตรการเพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กจะกลับมาอีก ว่า กทม.ยังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง (พีเอ็ม 2.5) อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาระยะสั้น เช่น ตรวจวัดควันดำ การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน ห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิด รณรงค์ไม่ขับช่วยดับเครื่อง เพิ่มความถี่การล้างทำความสะอาดถนน เป็นต้น ส่วนแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 ในระยะยาว ประกอบด้วย การปรับปรุงมาตรฐานไอเสียรถยนต์ใหม่และคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง การพัฒนาและเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้า โครงข่ายการให้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อเชื่อมโยงทุกระบบ รวมทั้งส่งเสริมและผลักดันการใช้รถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง (เอ็นจีวี) รถโดยสารไฟฟ้า รถโดยสารไฮบริด แทนการใช้รถโดยสารเครื่องยนต์ดีเซลเก่า การจัดหาพื้นที่จอดแล้วจร เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชน และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว

นายชาตรีกล่าวว่า สำหรับมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงระหว่างวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ โดยเฉพาะพื้นที่ที่คาดการณ์จะมีปริมาณฝุ่นละออง พีเอ็ม 2.5 เกินมาตรฐาน ประกอบด้วย เข้มงวดการตั้งจุดตรวจจับรถยนต์ควันดำ การห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด การเพิ่มความถี่ของการล้างทำความสะอาดถนนทุกสาย รวมทั้งการฉีดน้ำเป็นละอองฝอยในอากาศเพื่อดักจับฝุ่น การสเปรย์ละอองน้ำบริเวณพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง การจัดทำสเปรย์พ่นละอองฝอยจากอาคารสูง การประสานกับกองทัพอากาศและโรงเรียนการบินกรุงเทพ ปฏิบัติการขึ้นบินพ่นละอองน้ำช่วยลดฝุ่นละออง การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการดูแลป้องกันตัวเองจากฝุ่นละอองการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งการแจ้งเตือนบริเวณที่มีค่าฝุ่นละอองสูงให้ประชาชนรับทราบอย่างรวดเร็วและเตรียมการป้องกันตนเอง

“นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้รณรงค์ให้ความรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอันตรายจากการสูดอากาศที่ปนเปื้อนฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 รวมทั้งให้คำแนะนำการปฏิบัติที่ถูกต้องแก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพและป้องกันตนเอง ผ่านสื่อทุกช่องทาง โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัย (N95) เพื่อป้องกันฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 เข้าสู่ร่างกาย โดยให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงหรือลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ขณะอยู่กลางแจ้ง” นายชาตรีกล่าว

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์