แห้วกู้แบงก์จ่ายหนี้องค์การค้า 941ล. ‘หมอธี’ย้ำได้บิ๊กสกสค.-อค.ในรัฐบาลนี้

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ผู้อำนวยการองค์การค้า(อค.)ของ สกสค. และเลขาธิการคุรุสภาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้สามารถหาคนเก่ง และมีประสบการณ์มาทำงาน อีกทั้งจะต้องดูข้อกฎหมายให้รอบด้าน เพื่อไม่ให้เกิดกระบวนการร้องเรียนหรือต่อต้านอย่างที่ผ่านมา โดยการดำเนินการจะเปิดกว้างให้คนที่มีประสบการณ์มาสมัคร อย่างเช่น องค์การค้าฯ ก็ควรมีประสบการณ์ด้านการค้าขาย หรือมีประสบการณ์ด้านธุรกิจ หากเป็นข้าราชการจะต้องลาออกจากราชการก่อน เพราะต้องการคนที่สามารถทำงานเต็มเวลาได้ โดยตั้งใจว่าจะเร่งดำเนินการสรรหาให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้

“การสรรหาจะเริ่มจากตำแหน่งเลขาธิการสกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ก่อน ส่วนตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา อาจจะยังไม่ดำเนินการในช่วงนี้ เพราะการทำงานต่าง ๆ ของคุรุสภา กำลังไปได้ด้วยดี การยกร่างหลักเกณฑ์ต่าง ๆ จะต้องทำด้วยความรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดการร้องเรียน หรือต่อต้าน เพราะผมพูดเสมอว่าเรื่องคนผมต้องคิดนานๆ ค่อย ๆ คิด และตำแหน่งเลขาธิการสกสค. และผู้อำนวยการองค์การค้าฯ จะต้องทำให้ทันภายในรัฐบาลนี้” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสกสค. กล่าวว่า หากมีการเปิดรับสมัครสรรหาเลขาธิการสกสค.ตัวจริง ตนคงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะสมัครหรือไม่ ขอดูเกณฑ์การสรรหาก่อน เพราะส่วนตัวยังอยากรับราชการ เพื่อทำงานให้กับเพื่อนครูและวงการศึกษาอยู่ จึงตัดสินใจไม่ได้ในตอนนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเปลี่ยนเลขาธิการสกสค.ในช่วงนี้ จะทำให้การแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งในสกสค.และองค์การค้าฯ สะดุดหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า คงไม่สะดุดเพราะปัญหาภายในสกสค.มีมากอยู่แล้ว ใครเข้ามาก็ต้องทำต่อ อย่างกรณีล่าสุดที่สกสค. จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาหนี้ขององค์การค้าฯ ในส่วนของค่ากระดาษและค่าจ้างพิมพ์ จำนวน 941 ล้านบาทนั้น ที่ผ่านมาได้มีการประสานสถาบันการเงิน และส่งหนังสือไปสอบถามสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง (กค.) ซึ่งได้ตอบกลับมาว่า การกู้เงินของสกสค. จากสถาบันการเงินให้ถือเป็นหนี้สาธารณะ ซึ่งต้องเสนอให้ครม. เห็นชอบดังนั้น การกู้เงินจากสถาบันการเงินจึงอาจไม่สามารถดำเนินการได้ทัน เพราะกำหนดชำระหนี้วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ แต่ล่าสุดคณะกรรมการสกสค. มีมติให้ของบกลางมาชำระหนี้ให้องค์การค้าฯ ซึ่งจะต้องรวมยอดหนี้ตามคำพิพากษาเข้าไปด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดเพื่อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการศธ.พิจารณาต่อไป

 


ที่มา  มติชนออนไลน์