“บิ๊กป้อม” ขอทหาร อดทน-เป็นกลาง งดพูดการเมือง แนะเร่งตอบโต้ข่าวลวง โจมตีรบ.ทหาร

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมสภากลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานถึงแนวทางการปฏิบัติของทหารในการเลือกตั้งทั่วไป โดยได้กำชับให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีขึ้นในภาพรวม โดยให้ดำเนินการสนับสนุนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม รวมทั้งมีการสนธิกำลังระหว่างทหาร ตำรวจ พลเรือนและอาสาสมัครด้านความปลอดภัยเพื่อให้ความคุ้มครองประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ที่จัดการเลือกตั้งอย่างเรียบร้อยปลอดภัย

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ในขณะเดียวกันต้องทำพื้นที่มีความปลอดภัยให้กับพรรคการเมืองลงพื้นที่ได้เท่าเทียมและเป็นธรรมโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอให้กองทัพบกโดยกองอำนวยการภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)กำหนดมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมเพิ่มเติมตลอดจนให้กำชับกำลังพลและครอบครัวให้วางตัวเป็นกลางอย่างเหมาะสมโดยระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเน้นย้ำให้อดทนต่อการยั่วยุและจำเป็นจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนโดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจในสื่อสังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ตามข่าวสารอย่างมีสติ งดเว้นการแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นทางการเมืองในลักษณะที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพในเชิงลบ

พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า หน้าที่หลักของทหารก็คือการดูแลความปลอดภัยในทุกพื้นที่เพื่อให้ประชาชนสามารถไปใช้สิทธิ์ด้วยความปลอดภัยในขณะเดียวกันต้องทำให้ทุกพื้นที่มีความปลอดภัยเพื่อทุกพรรคการเมืองลงพื้นที่หาเสียงได้อย่างเท่าเทียมเพื่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบนอกจากนี้ยังต้องรักษาบรรยากาศ ก่อนการเลือกตั้งระหว่างเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยเหมือนที่ทำงานในห้วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยดำเนินการ 2 เรื่อง คือฝ่ายความมั่นคงจะเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อเดินหน้ากระบวนการประชาธิปไตยอย่างสงบถูกต้องดังที่ปรารถนากันทุกฝ่าย

เมื่อถามถึง กรณี พรรคการเมืองหาเสียงนำกองทัพเป็นคู่ขัดแย้ง พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ความขัดแย้งเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองวันนี้ต้องปรับบทบาทกันทุกฝ่ายทางพรรคการเมืองก็ต้องปรับเปลี่ยน ในส่วนของทหารหรือไม่ประชาชน เอกชน ก็ต้องปรับปรุงเพื่อให้เราสามารถทำงานในวิถี ประชาธิปไตยในระบบการเมืองโดยการยึดกฎกติกา คุณธรรมจริยธรรม โดยเอาผลประโยชน์ส่วนรวมและประเทศเป็นที่ตั้งร่วมกันเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงเรียนรู้บทเรียนในอดีตและปรับเปลี่ยนไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ตนเชื่อว่ากระบวนการประชาธิปไตยไม่ใช่ปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาคือตัวบุคคล ซึ่งขอให้เปลี่ยนแปลงตัวของเราเองในทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่ประโยชน์ของประชาชนที่ควรจะได้รับ รวมถึงของประเทศชาติเพื่อเพื่อให้เดินหน้าต่อไปให้สามารถอยู่ร่วมกับสังคมโลกในการแข่งขันโดยที่เรามีเกียรติและศักดิ์ศรีและเป็นที่ยอมรับของสังคมโลก

“พล.อ.ประวิตร ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ติดตามข่าวสารอันเป็นเท็จบิดเบือน ให้ร้ายที่มีมากขึ้นในปัจจุบันโดยเฉพาะการโจมตีรัฐบาล กองทัพ สถาบัน องค์กรต่างๆเพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือผ่านช่องทางสังคมออนไลน์สู่สาธารณะโดยให้ตอบโต้ข้อมูลที่เป็นเท็จให้ทันถ่วงที รวมการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนเฝ้าระวังการขยายโครงสร้างความแตกแยกในสังคมทุกกรณี” พล.ท.คงชีพ กล่าว

พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประวิตร ได้ขอบคุณ ผบ.เหล่าทัพ และเจ้าหน้าที่ทหารทุกระดับชั้น ที่หน้าที่ใน 4 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะกำลังพลทหารในทุกระดับในการทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความมั่นคงของประเทศ และเป็นแกนหลักในการแก้ปัญหาสำคัญของชาติในหลายวาระ ทั้ง การค้ามนุษย์ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ฝุ่นละออง สิ่งต่างๆเหล่านี้ท่านขอให้กำลังพลทุกคนใช้ความอดทน อดกลั้น ไม่เสียกำลังใจไปกับการยั่วยุ โดยให้มุ่งมั่นคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญเพื่อทำให้สังคมมีความรักความสามัคคีมีความมั่นคงและสามารถเดินได้กระบวนการประชาธิปไตยสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างราบรื่น

 

 

ที่มา  มติชนออนไลน์