ไฟป่าโหมหลายจังหวัดเหนือ “เชียงใหม่” มลพิษพุ่งสูง จนท.ป่าไม้ขนกำลังพลไปสกัดที่แพร่-น่าน

วันที่ 11 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้สภาพอากาศใน จ.เชียงใหม่ อยู่ในระดับน่าเป็นห่วง โดยในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ มองด้วยตาเปล่าพบว่า ท้องฟ้ามีสีเทาเข้มทั่วบริเวณ จนมองไม่เห็นดอยสุเทพ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของเว็บไซต์รายงานคุณภาพอากาศของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) พบว่า ค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ ตั้งแต่เวลา 9.00-10.09 น. ค่าความเข้มข้นของสารมลพิษ (Aqi) และ ค่าฝุ่นจิ๋ว (pm 2.5) อยู่ในระดับที่สูง จนส่งผลเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน บ่งชี้ว่าอากาศไม่ดี ถึงไม่ดีมาก

หลายอำเภอมีค่าดัชนีบ่งชี้คุณภาพอากาศรายชั่วโมงที่สูงสุด อยู่ในระดับสีม่วง คือ ที่สถานีตรวจวัดเทศบาลตำบลขี้เหล็ก อ.แม่ริม วัดค่า Agi ได้ที่ 339 ค่าฝุ่นจิ๋ว pm 2.5 อยู่ที่ 289.32 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ขณะที่สถานีวัดในตัวเมือง สถานีโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ค่า Agi ได้ที่ 216 ค่าฝุ่นจิ๋ว pm2.5 อยู่ที่ 2165.63 มคก./ลบ.ม., สถานีสำนักงานอธิการบดี มช.ค่า Agi ได้ที่ 209 ค่าฝุ่นจิ๋ว pm2.5 อยู่ที่ 159.03 มคก./ลบ.ม. โดยภาพรวมหลายอำเภอของ จ.เชียงใหม่ ดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศในช่วงเข้าพุ่งสูงเป็นระดับสีม่วง-แดงทั้งจังหวัด

ทั้งนี้ หน่วยทหารในพื้นที่ได้รายงานไปยังศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ภาคเหนือ ระบุว่า พบจุดความร้อน (Hot spot) จากการเกิดไฟป่าในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาคเหนือ วันที่ 10 มีนาคม ที่ดอยพระบาท จ.ลำปาง ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน แม้ล่าสุดกำลังเจ้าหน้าที่จะเจ้าไปดับไฟป่าได้แล้ว แต่ต้องมีการแจ้งย้ายกำลังพลดับไฟป่าจากหน่วยป่าไม้ 120 นาย เข้าไปช่วยดับไฟป่าในเขตพื้นที่ จ.แพร่ และ จ.น่าน แทน เนื่องจากมีแนวโน้มกว่าเกิดจุดความร้อนจากไฟป่าอย่างต่อเนื่อง และไฟป่าที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ก็เกิดขึ้นอีก

ขณะเดียวกัน พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากแม่ทัพภาคที่ 3 ให้ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัด ประสานกับตำรวจภูธรจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด ในกรณีตรวจพบการเผาป่าให้ตรวจสอบ สืบสวนและหาตัว มาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และให้ประสาน ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ออกคำสั่งการปิดป่าอย่างเด็ดขาดเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าต้องไม่มีใครเข้าไปอยู่ในป่าเพื่อมีโอกาสในการทำให้เกิดไฟไหม้หรือวางเพลิงได้อีกแล้ว

บ่ายวันเดียวกัน ทางด้าน จ.เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่เร่งฉีดพ่นน้ำแก้ปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ ขณะที่นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน

นายศุภชัยกล่าวถึงสภาพอากาศของ จ.เชียงใหม่ ว่า จากที่ได้มีการติดตามและคาดการณ์แล้วว่าคุณภาพอากาศจะเริ่มไม่ดี เนื่องจากความกดอากาศสูงเริ่มแผ่มาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ประกอบกับฝุ่นละออง ทั้งจากการเผาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ได้ถูกกระแสลมพัดเข้าสะสมในเขตเมืองซึ่งเป็นแอ่งกะทะ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทุกอำเภอเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบและปิดป่าไปในหลายพื้นที่แล้ว เช่น อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืน กรณีพื้นที่ ต.แม่เหียะ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งนายอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พร้อมสั่งการให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดข้อหาก่อให้เกิดไฟป่าในหลายพื้นที่

“ในเช้าวันนี้ได้สั่งการให้ฉีดพ่นเพิ่มละอองน้ำในเขตชุมชน โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ได้นำรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่รอบคูเมือง และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ นำรถฉีดพ่นละอองน้ำ บริเวณโรงอาหารศูนย์ราชการ เพื่อลดค่าฝุ่นละออง และบ่ายวันนี้ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหานี้ให้เกิดความต่อเนื่องจริงจัง” นายศุภชัยกล่าว

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์