เมื่อวันที่ 12 มี.ค. เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ถึงกรณีการทำความเข้าใจของรัฐบาลต่อประชาชนถึงกรณีกลุ่มก่อความไม่สงบ ชูประเด็นปัตตานี 110 ปีเพื่อหาแนวร่วมว่า ต้องพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ที่มีการเผยแพร่ออกมาว่าควรจะขยายต่อหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมานานมากแล้วจึงถือเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ โดยต้องทำวันนี้ให้ดีเพราะจะเป็นประวัติศาสตร์ในอนาคต
ส่วนในเรื่องของความคืบหน้าเหตุระเบิดป่วนในพื้นที่จังหวัดสตูลและพัทลุงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเมื่อวานนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตัวแทนของตนลงไปยังพื้นที่ พร้อมด้วยหน่วยงานด้านความมั่นคงลงไปยังพื้นที่ทั้งหมด ส่วนของความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน หากมีการแถลงความคืบหน้าว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนใดบ้าง กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ติดตามข่าวสารเช่นเดียวกัน แต่ตนยืนยันว่าขณะนี้มีความคืบหน้า และจะให้ข่าวเป็นระยะเมื่อสามารถให้ข่าวได้ และต้องไม่ผลกระทบกับการสืบสวนในกระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้นจะต้องดำเนินการให้รัดกุมที่สุด
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันในพื้นที่ให้ได้มากที่สุดทั้งสถานที่ราชการ และสถานที่ประกอบธุรกิจ เพราะเดิมไม่เคยเกิดเหตุขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว
“สิ่งสำคัญที่สุดคือเหตุการณ์ดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกพื้นที่ เหมือนทุกประเทศ ประเทศไทยเราประกอบด้วยคนหลายพวก หลายฝ่ายด้วยกัน คนดีก็มี และไม่ดีก็มี สิ่งสำคัญคือจิตอาสาที่จะเป็นการเฝ้าระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นหูเป็นตาช่วยเจ้าหน้าที่ของรัฐ” นายกฯกล่าวและว่า
ขอทุกภาคส่วนอย่าขยายความดังกล่าว เพราะความรุนแรงหากถูกขยายความก็จะเกิดน้ำหนัก มีบทบาทในเรื่องนี้มากขึ้น เพื่อบีบบังคับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งสิ่งนี้อันตรายที่สุด