“บิ๊กจิน” แถลงเวที UN ไทยใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น ยึดมั่นพันธกรณีควบคุมยาเสพติด

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 14 มีนาคม (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงเวียนนา) ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติเวียนนา กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 62 ระดับรัฐมนตรี โดยมีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. นางฐิติพร จิระสวัสดิ์ อุปทูต สถานเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา พล.ต.ท. ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นางชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด นายจิตรนรา นวรัตน์ อธิบดีอัยการสำนักงานปราบปรามคดีทุจริต ภาค 2 ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวม 14 หน่วยงาน เป็นคณะผู้แทนไทย ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการยาเสพติด จำนวน 53 ประเทศ ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ องค์การระหว่างประเทศ องค์การระหว่างภูมิภาค และองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร

พล.อ.อ.ประจิน ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลง แสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรซูดาน ที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 62 และรัฐบาลไทยยืนยันต่อการดำเนินต่อพันธกรณีด้านการควบคุมยาเสพติดทั้งในระดับอนุภูมิภาค ระดับภูมิภาค และระดับโลก อีกทั้งยึดมั่นต่ออนุสัญญาสหประชาติด้านยาเสพติดทั้ง 3 ฉบับ และสนับสนุน คณะกรรมาธิการยาเสพติดในฐานะหน่วยงานหลักสำคัญระดับโลกด้านนโยบายด้านยาเสพติด และ สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติในฐานะองค์กรหลักในการส่งเสริมโครงการและกิจกรรมด้านการควบคุมยาเสพติด

พล.อ.อ.ประจิน ยังกล่าวว่า ประเทศไทยยึดมั่นต่อปฏิญญาทางการเมืองและแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีต่อยุทธศาสตร์เชิงบูรณาการและสมดุลเพื่อต่อต้านปัญหายาเสพติดโลก ทั้งนี้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าในการ ดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งด้านการลดอุปสงค์ยาเสพติดและอุปทานยาเสพติด โดยมีการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายยาเสพติดที่ใช้หลักการสาธารณสุขนำมีการอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์เท่านั้น ประเทศไทยยังยึดมั่นต่อท่าทีของอาเซียนที่จะไม่ทำให้ยาเสพติดเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ยกเว้น เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เท่านั้น

นอกจากนี้ยังสนับสนุนแนวปฏิบัติสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาทางเลือกและผลักดันการประยุกต์ใช้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาทางเลือกในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติดทั่วประเทศ ประเทศไทยประสบความสำเร็จในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ อาทิ ความร่วมมือกับประเทศอาเซียน ประเทศภาคีสมาชิกกรอบบันทึกความเข้าใจ7ฝ่ายว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาค ความร่วมมือภายใต้โครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย ทั้งนี้ขอเรียกร้องนานาชาติให้เพิ่มความสนใจต่อปัญหาการลักลอบค้าเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเห็นว่าปัญหายาเสพติดโลกเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพวกเราทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด เป็นการประชุมสำคัญระดับโลกด้านนโยบายยาเสพติด มีกำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในห้วงเดือนมีนาคม โดยเนื้อหาของการประชุมระดับรัฐมนตรีจะเน้นการติดตามการปฏิบัติตามปฏิญญาทางการเมือง พ.ศ.2552 และแผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีต่อยุทธศาสตร์เชิงบูรณาการและสมดุลเพื่อต่อต้านปัญหายาเสพติดโลก พ.ศ. 2552 ระยะ 10 ปี โดย พ.ศ. 2562 จะเป็นปีที่สิ้นสุด จึงมีการปรึกษาหารือระหว่างประเทศสมาชิกถึงแนวทางการดำเนินนโยบายยาเสพติดโลกในอนาคตภายหลังปี พ.ศ. 2562

 

ที่มา : มติชนออนไลน์