กรมอุทยานฯ แจงสาระสำคัญกม.ฉบับใหม่ เน้นคนอยู่กับป่าแบบไม่กระทบนิเวศ

กรมอุทยานฯ แจงสาระสำคัญกฎหมายอุทยานฯฉบับใหม่ เน้นคนอยู่กับป่าแบบไม่กระทบนิเวศ แต่เพิ่มโทษคนไม่กลัวกฎหมาย เก็บหาของป่าได้ต้องเป็นชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่

เมื่อวันที่ 17 มีนายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ…..ที่ผ่านการพิจารณาของ สนช.เตรียมประกาศใช้เป็นกฎหมาย ว่า พ.ร.บ.อุทยานฯ ฉบับใหม่มีสาระสำคัญคือ 1.ได้กำหนดแผนการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานฯ โดยสอดคล้องกับนโยบายการ จัดการอุทยานฯ ที่คณะกรรมการอทุยานฯ ให้ความเห็นชอบเพื่อให้การจัดทำแผนการบริหารจัดการและการกำหนดเขตการจัดการ เป็นไปเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการคุ้มครอง บำรุง ดูแล รักษา และ การสะท้อนถึงสภาพปัญหาการดำรงชีพตามวิถีชุมชนและวิถีชีวิตดั้งเดิมที่อยู่ โดยรอบอุทยานฯ โดยไม่กระทบต่อลักษณะพื้นที่ที่ต้องการอนุรักษ์สภาพธรรมชาติหรือเป็นพื้นที่เปราะบางของระบบนิเวศและรักษาสภาพความเป็นอุทยานแห่งชาติ 2. ปรับบทกำหนดโทษให้สูงขึ้นเนื่องจาก ตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ พ.ศ. 2504 มีบทกำหนดโทษ ที่ไม่สูงมาก ทำให้ไม่อาจข่มขู่ยับยั้งผู้กระทำผิดได้อีกทั้งในปัจจุบันมีการบุกรุกทำลายพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจึงมีการปรับบทกำหนดโทษให้สูงขึ้นโดยเทียบเคียงกับพ.ร.บ.ในลักษณะเดียวกันที่มีโทษสูง ได้แก่ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่4) พ.ศ. 2559 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556

นายทรงธรรม กล่าวต่อว่า 3. แก้ปัญหาคนอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ กำหนดบทบัญญัติที่กำหนดขึ้นเพื่อบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาให้แก่บุคคลที่ได้อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเดิม ( ภายใต้กรอบมติครม. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 หรือตามคำคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่66/2557)ซึ่งผ่อนปรนให้อยู่ อาศัยหรือทำกินเพื่อดำรงชีพอย่างเป็นปกติธรุะตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดโดยผู้อยู่อาศัยมีหน้าที่ในการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติด้วยเป็นการให้คนอยู่ร่วมกับป่าอย่างปกติสุข 4.การเก็บหาหรือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาลเพื่อประโยชน์ในการควบคุมและลดการพึ่งพิงทรัพยากรธรรมชาติและเพื่อแก้ปัญหาการดำรงชีพตามวิถีชุมชนหรือวิถีดั้งเดิมที่อยู่โดยรอบบริเวณอุทยานแห่งชาติโดยจัดทำเป็นโครงการอนุรักษ์และใช้ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนให้สามารถเก็บหาหรือใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาลเพื่อดำรงชีพอย่างเป็นปกติธุระภายใต้หลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ

ผู้อำนวยการ สำนักอุทยานฯ กล่าวอีกว่า สำหรับในเรื่องการเก็บหา หรือใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนตาม มาตรา 65 ของร่าง พ.ร.บ.อุทยานฯ ฉบับใหม่นั้น กรมอุทยานฯจะสำรวจข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับประเภทและชนิดของทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ในอุทยานฯ พื้นที่ในอุทยานฯแห่งใดมีศักยภาพเพียงพอมีทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาลที่สามารถเก็บหาหรือใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาตินั้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาการดำรงชีพอันเป็นปกติธุระวิถีชุมชนหรือวิถีดั้งเดิมที่อยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติ และต้องสอดคล้องกับนโยบายการจัดการอุทยานแห่งชาติและแผนบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทั้งนี้ให้กรมอทุยาน ฯโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ จัดทำโครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอุทยานแห่งชาติ เสนอต่อ รัฐมนตรีทส. โดยออกประกาศกระทรวงและมีแผนที่แสดงแนวเขตโครงการเสนอ ครม. เห็นชอบ ผู้ได้รับอนุญาตต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการอนุญาตที่กำหนด ทั้งนี้สำหรับทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนสามารถเก็บหาได้ คือ เห็ด ผักหวาน หน่อไม้ เป็นต้น ซึ่งต้องมีการสำรวจและกำหนดโซนนิ่งพื้นที่ชัดเจน โดยคนที่เข้ามาใช้ทรัพยากรกรได้ต้องเป็นชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่อุทยานฯ เท่านั้น

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์