ในประเทศ

‘สมคิด’ กังวลสูญญากาศการเมือง 3 เดือน ฉุดท่องเที่ยว

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการมอบนโยบานและรับฟังแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่า กังวลช่วงรอยต่อรัฐบาลในช่วง 3-4 เดือนจากนี้ถึงประมาณมิ.ย. 2562 เป็นช่วงสูญญากาศทางการเมือง ททท. ต้องร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ คิดโครงการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยว เพราะถือว่าช่วงที่ยังกังวลในเรื่องของการเมืองในประเทศ เรื่องความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ไม่อยากให้กระทรวงพาณิชย์โฟกัสเฉพาะภาคส่งออกเพียงอย่างเดียว ให้เร่งหารือกับ ททท. เพื่อทำโมเดลร้านค้ารวบรวมสินค้าไทยดีๆ มาขายแก่นักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม

นอกจากกระทรวงพาณิชย์กับททท. ร่วมกันทำงาน ต้องดึงเอกชนเข้ามาร่วมกันทำงาน เพื่อเป็นอีกช่องทางในการโปรโมตสินค้าไทย รวมถึงจัดทำแอพพลิเคชันที่สามารถอ่านข้อมูลรายละเอียดบนฉลากสินค้าไทยได้เหมือนกับแอพพลิเคชันของญี่ปุ่นที่ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจากข้อจำกัดทางภาษา ให้ออกแคมเปญทางการตลาดและกลยุทธ์ใหม่และแรง (High Impact) มากกว่านี้ กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมาช่วยการจับจ่ายภายในประเทศให้คึกคักขึ้น เพื่อประคองเศรษฐกิจไทย

“จากการรับฟังนโยบายและแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวของ ททท. บอกเลยไม่ว้าว ฟังแล้วไม่อยากมาเที่ยว ต้องไปทำงานใหเหนักกว่านี้ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ระยะสั้น 3-4 เดือนนับจากนี้ ตั้งแต่เดือนเม.ย.-ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และการเมืองไทย แผนการตลาดต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัด โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ กลุ่มที่มีอำนาจจับจ่ายสูงอย่างนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย จึงอยากให้มีมาตรการกระตุ้นตลาดออกมารองรับ ทั้งมิติการอำนวยความสะดวกก่อนเดินทางมาถึงไทย เพราะเรารู้ว่าขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนระดับคนชั้นกลาง (มิดเดิลคลาส) ขึ้นไปซึ่งมีขนาดกว่า 700-800 ล้านคนซึ่งมีอำนาจซื้อ”

นายสมคิด กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (บอร์ดททท.) เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา มีนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน ได้เห็นชอบต่ออายุให้นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ที่จะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้ ต่อไปอีก 1 วาระหรือ 4 ปี เพราะเป็นคนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญการตลาดท่องเที่ยวอยู่แล้ว จึงให้ดำรงตำแหน่งต่อเพื่อให้การทำงานขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง

ส่วนมาตรการต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VoA) สำหรับชาวต่างชาติ 20 ประเทศ อัตรา 2,000 บาทต่อคนออกไปอีก 6 เดือน จากเดิมมาตรการจะหมดอายุในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ไปสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.นี้ เพื่อให้ครอบคลุมวันชาติจีนซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศจำนวนมาก ททท. จะเสนอยืดอายุอีก 6 เดือนเป็นสิ้นสุด 31 ก.ย.นี้

และต้องเร่งทำตลาดผ่านการเร่งเจรจาและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและจับจ่ายในประเทศจีน เช่น Ant Financial เจ้าของอาลีเพย์ ในเครืออาลีบาบากรุ๊ป รวมถึงให้มาตรการจูงใจแก่สายการบินต่างๆ เช่น สปริงแอร์ไลน์ แอร์เอเชีย และอื่นๆ เพื่อเพิ่มเที่ยวบินมาไทยให้มากขึ้น

ด้านข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยนำค่าบริการทางการท่องเที่ยวและค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท หากเป็นค่าบริการทางการท่องเที่ยวและค่าที่พักในพื้นที่เมืองรอง สามารถหักค่าลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า หรือสูงสุด 30,000 บาท โดยให้ไปหารือกับกระทรวงการคลังเพิ่มเติมก่อนวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้

นายยุทธศักดิ์ กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากข้อเสนอต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VoA อีก 6 เดือนแล้ว ได้ขอให้พิจารณา Multiple Visa หรือการขอวีซ่าครั้งเดียวแต่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้หลายครั้ง นาน 3-5 ปี แก่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนด้วย โดย ททท. จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับกระทรวงการต่างประเทศเพิ่มเติม และเตรียมจัดโครงการรองรับคือ แฮปปี้เนส อิน ไทยแลนด์

นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้พิจารณาขยายเวลาปิดด่านชายแดนถาวรที่ จ.หนองคาย มุกดาหาร อุบลราชธานี สุรินทร์ สระแก้ว เชียงราย และแม่ฮ่องสอน โดยขยายเวลาทุกวันศุกร์ เปิดครบ 24 ชั่วโมง (Premium Friday) เพื่ออำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยว ทั้งการพักค้างและการใช้จ่าย

 

 

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์