เอาผิดนักลงทุนจีนผุดวิลล่าหรู 500 ล้าน ไม่มีใบอนุญาต

วันที่ 6 เมษายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้ พล.อ.ต.วันชัย บุญภักดี ที่ปรึกษา ผอ.รมน.ภาค 4, พ.อ.ธวัชชัย ทับทิมสงวน กรรมการอำนวยการ รมน.ภาค 4 ร่วมกับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่45 พื้นที่เกาะสมุย ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย ตำรวจ.สภ.บ่อผุด และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี บูรณาการกำลังตรวจสอบและนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเคร่งครัดกับธุรกิจโรงแรม โฮสเทล ที่แอบเปิดให้บริการแบบผิดกฎหมาย ใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินีต่างชาติ ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยกำลังของเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่โครงการเดอะเวฟ ของบริษัท เดอะ เวฟ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด เป็นวิลล่าหรูทั้งหมด 29 หลัง มีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ตั้งอยู่บนยอดเขาบริเวณเฉวงน้อย ม.6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าเปิดมานานกว่า 3 ปีแต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามที่มีการนำเสนอข่าวไป

จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เดอะ เวฟ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด มีนายเสี่ยวซอง ฟู สัญชาติจีน อายุ 48 ปี และน.ส.ภรทิพย์ เชิญกลาง เป็นกรรมการบริษัท ทุนจดทะเบียน 12 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 120,000 หุ้น มีผู้ถือหุ้น 3 คน ประกอบด้วย นายเสี่ยวซอง ฟู สัญชาติจีน 58,800 หุ้น น.ส.สุนันทา สุขเจริญ 30,600 หุ้น และนายพีระพงษ์ โม้พิมพ์ 30,600 หุ้น มีวัตถุประสงค์ ประกอบกิจการบริหาร จัดการ จัดสรร ดูแล ที่พักอาศัย วิลล่า ที่ดิน โครงการต่างๆ และการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องดังกล่าวทุกประเภท ประกอบกิจการซื้อ ขาย เช่า ให้เช่า อสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท และบริษัท ไฟน์เนส สมุย แมเนจเมนท์ จำกัด มีน.ส.เจียง ฮวน สัญชาติจีน เป็นกรรมการบริษัท ทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์ ประกอบกิจการบริการทำความสะอาดทั่วไป จัดสวน สำหรับอาคารทุกประเภท เช่น สำนักงาน บ้านเรือน ห้องเช่า โรงแรม โรงงาน ร้านค้า สถานบันเทิงทั่วไป และทำความสะอาดสถานที่ประกอบธุรกิจและวิชาชีพต่างๆ รวมทั้งอาคารที่พักอาศัยเอนกประสงค์ทั้งภายในและภายนอก

ล่าสุดทางพนักงานสอบสวนสภ.บ่อผุดได้เชิญตัวพนักงานของบริษัท ไฟน์เนส สมุย แมเนจเมนท์ จำกัด ที่มีคนไทย 1 คน และชาวจีน 3 คน มาสอบปากคำให้การว่าบริษัท ไฟน์เนสฯรับหน้าที่ดูแลลูกค้าที่เข้าพัก และบริหารจัดการภายในสถานที่ทั้งหมด ส่วนรายได้จากการจองห้องพักนั้นทางด้านบริษัท เดอะ เวฟ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ที่มีนายเสี่ยวซอง ฟู สัญชาติจีน อายุ 48 ปี เป็นเจ้าของจะเป็นผู้รับรายได้เข้าไปโดยตรงและทราบว่าตอนนี้อาศัยอยู่ในประเทศจีน ซึ่งภายในวันที่ 9 เมษายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา แต่หากไม่มาพบหรือมีพฤติกรรมหลบหนีก็จะพิจารณาออกหมายจับต่อไป

ขณะที่ นายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า โรงแรมในลักษณะนี้คาดว่าจะมีหลายแห่งบนเกาะสมุย เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับโรงแรมที่มีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง เงินที่โอนค่าห้องพักก็ไปถึงมือนายทุน ต่างกับโรงแรมที่มีใบอนุญาตถูกต้องต้องมีการเสียภาษีให้กับภาครัฐ เงินส่วนหนึ่งก็จะมาพัฒนาเกาะสมุย ต่างกับโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตก็จะรับเงินไปเต็มๆไม่มีการเสียภาษีให้กับภาครัฐจนมีความเหลือมล้ำกัน และการทำธุรกิจลักษณะนี้ของชาวจีนเหมือนกับทัวร์ศูนย์เหรียญ ตั้งแต่การรับจองห้องพัก ซื้อสินค้า ร้านอาหาร โปรแกรมท่องเที่ยวจะอยู่เฉพาะในกลุ่มของคนพวกนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวอาจจะได้การบริการที่ไม่ดี สินค้าไม่มีคุณภาพ และจ่ายในราคาทีแพงกว่าความเป็นจริง

ในอนาคตถ้ามีการลงทุนวิลล่าของชาวจีนเพิ่มมากขึ้น หรือมีธุรกิจของชาวต่างชาติเข้ามาโดยที่รายได้ต่างๆส่งตรงไปถึงนายทุนก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ในวันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถตรวจสอบจับกุมได้ก่อนถือเป็นการป้องกันวงจรนี้ไม่ให้เกิดขึ้นที่เกาะสมุย และขอให้เรื่องนี้อย่าเป็นไฟไหม้ฟางคือจับแค่ช่วงนี้ อยากให้มีการทำต่อไปเรื่อยๆเจ้าหน้าที่รัฐต้องลงมากวดขันตรวจสอบธุรกิจโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต อยากให้ภาครัฐมีมาตรการที่เด็ดขาดจะได้ช่วยส่งเสริมโรงแรมที่ทำถูกต้องให้อยู่รอดได้เป็นสิ่งสำคัญ เรายินดีในโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้องมาร่วมลงทุนและเราต้องรักษาผลประโยชน์กับคนที่ทำถูกต้องก่อน และที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามากับคนที่ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ก็จะไม่มีหลักประกันในการท่องเที่ยวไม่ได้รับการคุ้มครอง หากเกิดปัญหาจะไม่สามารถอ้างอิงโรงแรมนี้แล้วไปเครมประกันได้

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์