เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจอยู่ในขณะนี้ เมื่อ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง ซึ่งถูกศาลตัดสินจำคุก โดยมีการพูดถึงคดีดังกล่าวจำนวนมาก รวมถึงเพื่อนพี่น้องในวงการที่เดินทางไปเยี่ยม และส่งกำลังใจผ่านข้อความทางโซเชียล มีเดีย
ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.พรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I’m Back โดยเล่าถึงตั้งแต่ช่วงที่รู้จักผ่านรายการ “ถึงลูกถึงคน” พร้อมกับเผยว่า ตนจะไปให้กำลังใจและแนะนำการปรับตัวปรับใจ ในฐานะที่เคยเป็นนักโทษมาก่อน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ผมเริ่มรู้จักสรยุทธตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนในรายการ “ถึงลูกถึงคน” ซึ่งเป็นรายการที่ได้รับความนิยมสูง เพราะสรยุทธมีวิธีการซักถามที่ไม่เหมือนใคร มีทั้งรุกและถอย ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาซักจนแขกที่มาร่วมรายการเสียความรู้สึก
นี่เป็นบุคลิกที่ดีของผู้ทำรายการประเภทเชื้อเชิญแขกมาร่วมสนทนา เพราะต้องควบคุมประเด็นไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง บางครั้งผู้ร่วมรายการพูดเลอะเทอะและยืดยาวจนทำให้รายการน่าเบื่อ สรยุทธสามารถตัดทอนและซักถามให้เกิดความหลากหลาย ครบถ้วนทุกประเด็นในเวลาสั้นๆ
จะจัดรายการตามใจหรือปล่อยให้เลยเถิดมากไปไม่ได้
ความที่สรยุทธนั้นแตกต่างจากพิธีกรคนอื่นๆ มีบุคลิกที่โดดเด่นและมีวินัยในการทำงาน ยืนหยัดอยู่บนจอทีวีมากว่าสิบปีโดยไม่ขาดเลยแม้แต่วันเดียว เหมือนแบรนด์สินค้าที่ตอกย้ำให้คนดูเห็นอยู่ทุกวี่ทุกวัน เป็นเหตุให้เขาประสบความสำเร็จอย่างสูง หากไม่มีกรณีที่เป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล เขาจะพุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่
ผมเชื่อว่าสรยุทธมีเพื่อนอยู่ไม่มาก แม้สรยุทธเป็นคนเข้มแข็ง มีตัวตนที่ชัดเจน แต่ยามที่เพื่อนตกต่ำถึงขนาดติดคุกติดตะรางจะไม่ไปเยี่ยมให้กำลังใจนั้น คนอย่างผมทำไม่ได้
ยิ่งเคยผ่านร้อนผ่านหนาวเป็นนักโทษมาก่อน วันนี้ก็อดไม่ได้ที่จะไปเยี่ยม แนะนำการปรับตัวปรับใจที่ต้องบอกเสียก่อนว่าไม่ได้ทำกันง่ายๆ
โลกเรานี้หมุนเวียนเปลี่ยนไป วันก่อนสรยุทธอ่านข่าวชูวิทย์ แต่วันนี้กลายเป็นชูวิทย์อ่านข่าวสรยุทธ
วันก่อนพูดไปใครจะเชื่อ แต่วันนี้ดันเกิดขึ้นจริงๆ