ทัพเรือภาค 3 แจ้งความเอาผิดกลุ่มสร้างที่พักกลางทะเลภูเก็ต หวังตั้งรัฐอิสระ

นายทหารพระธรรมนูญของทัพเรือภาคที่ 3 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง กรณีการก่อสร้างที่พักตามแนวทางของกลุ่ม Seasteading กลางทะเลภูเก็ตแล้ว

ความคืบหน้ากรณีทัพเรือภาคที่ 3 โดยศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล. เขต 3 ) จัดเรือ ต.991 พร้อมชุดสหวิชาชีพ นำโดยพลเรือตรีกฤษณะ กุณฑียะ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3, พันตำรวจเอกขวัญชาติ วงค์ขจรไพรบูลย์ ผกก. 8 บก.รน, นาวาโท โกวิท ตาละโสภณ ฝ่ายกฎหมาย ศรชล., นายปิยะวัฒน์ ทองขาว เจ้าพนักงานตรวจท่า ปฏิบัติการ ผู้แทน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต, เรือเอกประสงค์ แสนประสิทธ์ ผู้บังคับการเรือ ต.991 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบที่พักตามแนวทางของกลุ่ม Seasteading ซึ่งมีการโฆษณาในเว็บไซต์หนึ่ง ติดตั้งอยู่กลางทะเลห่างจากเกาะราชา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ไปประมาณ 12 ไมล์ทะเล พบว่า สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวมีขนาด 3 X 3 เมตร แต่ไม่พบผู้อยู่อาศัยบนอาคารแต่อย่างใด

ทั้งนี้ในตรวจสอบพบหลักฐานต่างๆ พบการเชื่อมโยงชื่อบุคคลบางบุคคลในเว็บไซต์โฆษณาชักชวนให้ผู้ที่ชื่นชอบในแนวคิดนี้มาอาศัยอยู่เพื่อจัดตั้งชุมชน โดยมีเป้าหมายที่จะสถาปนาเป็นรัฐอิสระหรือเขตปกครองตนเองขึ้นในอนาคต ซึ่งมีบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ 2 คน เป็นคนต่างชาติ 1 คน และ คนไทย 1 คน และมีชื่ออยู่บนซองยาที่พบบนที่พักอาศัยลอยน้ำดังกล่าว ทั้งหมดนี้จะนำไปเป็นหลักฐานในการแจ้งความต่อไป โดยเฉพาะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 ซึ่งกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศไทยโดยตรง และยังเป็นการละเมิดสิทธิอธิปไตยของประเทศไทยที่มีเหนือเขตต่อเนื่องตามข้อ 56B และข้อ 60 วรรค 7 และ วรรค 8 ของอนุสัญญากฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 ด้วย ส่วนการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างนั้นจะต้องรอเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารที่เกี่ยวข้องโดยจะลักษณะคำสั่งทางการปกครอง โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการ นอกจากนี้ยังได้มีการประสานกับกรมอุทกศาสตร์ในการที่จะออกเป็นประกาศชาวเรือ เพื่อแจ้งให้เรือทุกลำที่ใช้เส้นทางเดินเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการเดินเรือด้วย

ทั้งนี้ล่าสุดมีรายงานว่าทัพเรือภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้กับนายทหารพระธรรมนูญของทัพเรือภาคที่ 3 เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ตามพยานหลักฐานที่มีอยู่และเชื่อได้ว่าบุคคลทั้ง 2 คนดังกล่าวมีเจตนาที่จะทำให้อธิปไตยบางส่วนของประเทศไทยเสียไป และเสียสิทธิอธิปไตยที่พึงมีพึงได้หายไป กับพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (13 เม.ย.) ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่าในวันนี้ (14 เม.ย.62) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พล.ร.ต.กฤษณะ กุณฑียะ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้ร่วมประชุมความมั่นคงจังหวัดเป็นกรณีพิเศษ เรื่อง แนวทางการดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวกับ seasteading โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานด้วย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ

สำหรับ มาตรา 119 ระบุว่า ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

 


ที่มา:มติชนออนไลน์