มูลนิธิสืบฯ จี้ย้ายจระเข้น้ำเค็มภูเก็ต คืนธรรมชาติโดยด่วน หลังเกิดความเครียดมีอาการซึมเศร้า

เมื่อวันที่ 4 ก.ย. มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ “ข้อเสนอแนะกรณีการดำเนินการต่อจระเข้น้ำเค็ม จ.ภูเก็ต” พบจระเข้น้ำเค็มเพศผู้ อายุ 5-8 ปี ความยาว 3 เมตรเศษ หนักประมาณ 200 กิโลกรัม ที่หาดบางเทา จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา และต่อมาวันที่ 1 ก.ย. 60 ได้จับจระเข้น้ำเค็มขึ้นจากแหล่งน้ำ และนำไปพักฟื้นไว้ในบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 (ภูเก็ต) ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ของกรมประมง แต่จระเข้น้ำเค็มมีอาการซึมเศร้า ไม่กินอาหาร เนื่องจากปกติจะอาศัยอยู่ในน้ำและชายฝั่งที่มีลักษณะพื้นกว้าง การจับจระเข้มาพักไว้ในบ่อซีเมนต์ที่มีพื้นที่ไม่เหมาะสม ทำให้จระเข้น้ำเค็มเกิดความเครียด และส่งผลต่ออาการอื่นๆ ตามมา

ในฐานะที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรเป็นองค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ปกป้องป่าผืนใหญ่ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และความหลากหลายทางระบบนิเวศแล้ว มูลนิธิสืบนาคะเสถียรยังให้ความสำคัญกับสิ่งมีชีวิตชนิดพันธุ์ที่สำคัญและถูกคุกคาม จึงมีข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณะชนในการร่วมกันรักษาไว้ซึ่งพันธุกรรมของสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดนี้

1. ระยะเร่งด่วน : ควรย้ายจระเข้น้ำเค็มไปยังพื้นที่รองรับทางธรรมชาติที่เหมาะสม รูปแบบพื้นที่ปิด เพื่อการศึกษาวิจัย และเป็นการลดอาการเครียดของจระเข้ เช่น สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า หรือหน่วยงานที่มีศักยภาพเหมาะสมในการดูแลจระเข้ดังกล่าว

2. ระยะยาว: ศึกษาทางเลือกในการปล่อยคืนพื้นที่ธรรมชาติในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูชนิดพันธุ์จระเข้น้ำเค็ม ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีถิ่นอาศัยกระจายอยู่ในเขตอินโด-แปซิฟิก ตั้งแต่อ่าวเบงกอล หมู่เกาะอันดามัน เขตประเทศอาเซียนทั้งหมด ไปจนถึงตอนเหนือออสเตรเลีย และจากการจัดสถานภาพของจระเข้น้ำเค็มในประเทศไทย

 

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก “เสียงประชาชน คนภูเก็ต”

ที่มา ข่าวสดออนไลน์