พายุ “ทกซูรี” แสบไม่เลิก! พัดสะพาน จ.กาฬสินธุ์ ขาด! เจ้าหน้าที่รุดแก้ไข

จากอิทธิพลของพายุ “ทกซูรี” ที่ส่งผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักทั้ง 18 อำเภอของ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน เป็นต้นมา ซึ่งปริมาณฝนที่ตกหนักในพื้นที่ อ.ห้วยผึ้ง มากถึง 235 มิลลิเมตร และพื้นที่ติดแนวเขตเทือกเขาภูพานอย่าง อ.สมเด็จ, อ.เขาวง, อ.นาคู, อ.นามน และ อ.สหัสขันธ์ ปริมาณฝนวัดได้มากถึง 100-180 มิลลิเมตร

ทำให้เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎรหลายหมู่บ้าน ทั้งยังส่งผลให้ถนนหลายสายขาดพังจนต้องปิดการจราจร โดยนายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนเร่งสำรวจความเสียหายจากพายุทกซูรี เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ปัญหาพื้นที่น้ำท่วม 5 อำเภอคือ อ.เมืองกาฬสินธุ์, อ.กมลาไสย, อ.ยางตลาด, อ.ร่องคำ และ อ.ฆ้องชัย ยังไม่ได้รับผลกระทบซ้ำจากพายุทกซูรี และสถานการณ์ก็เริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว

ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จุดวิกฤติที่ได้รับผลกระทบจากพายุทกซูรี บริเวณถนนบ้านหนองอีบุตร เส้นทาง อำเภอนามน-อำเภอหวยผึ้ง กระแสน้ำป่าเชี่ยวกราก และมีปริมาณมากได้พัดคอสะพานเชื่อมต่อถนนขาดจนไม่สามารถใช้การได้ โดย กกล.รส.กาฬสินธุ์ ได้นำกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์บูรณาการร่วมกับ จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบ และดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

นอกจากนี้ กองพลทหารม้าที่ 3/กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดชุดบรรเทาสาธารณภัย และประสานกับ กองพลทหารราบที่ 6 โดยกองพันทหารช่างที่ 6 ขอรับการสนับสนุนรถสะพานเครื่องหนุนมั่น (MFB) สามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้ปกติ

ขณะที่บริเวณถนนระหว่างอำเภอนามน-จ.กาฬสินธุ์ ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ได้เข้าอำนวยการในการติดตั้งสะพานเชื่อมเพื่อให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางสัญจรชั่วคราวก่อน ซึ่งแขวงการทาง จ.กาฬสินธุ์ ทางหลวงชนบท ได้ประสานของสะพานแบริ่ง จากศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 2 ขอนแก่น กรมทางหลวงชนบท มาติดตั้งที่คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และเปิดเส้นทางใช้ได้ในเวลา 15.00 น.วันนี้

อีกทั้งมีรายงานเพิ่มเติมว่าในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ ที่มีฝนตกหนัก น้ำป่าได้ไหลหลากเข้าท่วมโรงเรียนบ้านสิงห์สะอาด ที่อยู่ติดกับเขาภูสิงห์ และภูค่าว ระดับน้ำสูงถึง 30-40 เซนติเมตร แต่ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และทางโรงเรียนฯ กำลังสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากนี้บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยผึ้ง เกิดหลุ่มขนาดใหญ่บริเวณสันอ่างเก็บน้ำ

นายไพโรจน์ จิตจักร นายอำเภอห้วยผึ้ง นำกำลังกำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านนำดินทรายมาอุดหลุมดังกล่าวร่วมกับทางชลประทาน จ.กาฬสินธุ์ และจัดเวรยามเฝ้าระวังในระยะนี้อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม นางเนตรชนก คำดี นายกเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ ได้นำถุงยังชีพข่าวสารอาหารแห้ง ออกเยี่ยมและมอบให้กับประชาชนที่ประสบภัย เพื่อเป็นการปลอบขวัญผู้ประสบภัย โดยกระจายกำลังออกพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอ ในทันที

ด้านนางกิ่งแก้ว ธารศรี อายุ 50 ปี ชาวบ้านสวนป่า กล่าวว่า ไม่เคยเห็นน้ำป่าลักษณะแบบนี้มาก่อน ทั้งกระแสน้ำที่รุนแรง ปริมาณน้ำมาก ยังรู้สึกหวาดกลัวเมื่อยังมีฝนตกอยู่เกรงว่าจะเกิดขึ้นอีก ลอยคออยู่ในน้ำกับหลาน 2 คนกว่า 3 ชั่วโมง โชคดีที่ไม่เป็นอะไร น้ำเข้าบ้านเสียหาย บ้านก็พัง เครื่องใช้ไฟฟ้าจมน้ำเสียหายหมด ส่วนการขอความช่วยเหลือก็รอคอยทางภาครัฐเท่านั้น ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรตอนนี้

ส่วนพื้นที่ อ.นาคู ยังได้รับผลกระทบหนักถือเป็นอีกแห่งที่วิกฤติน้ำป่าได้ไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นท่าการเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ทั้ง ต.ภูแล่นช้าง, ต.สายนาวัง และ ต.โนนนาจาน พื้นที่นาข้าวที่ปักดำเสียหายซ้ำเป็นรอบที่ 3 จากน้ำป่าในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งถนนหมายเลข 2101 ภูแล่นช้าง-บ้านโนนศรีวิลัย น้ำท่วมขังสูง การสัญจรไปมาลำบาก และมีบ้านเรือนที่ยังถูกน้ำท่วมขังอยู่อีกเกือบ 10 หลังคาเรือน

 


ที่มา มติชนออนไลน์