ในประเทศ

พลังประชารัฐ เปิด 4 ขั้นตอนรับคนไทยจาก “อู่ฮั่น” การันตีปลอดภัย

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีต ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงกรณีไปรับคนไทยจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า นับเป็นข่าวดีที่คนไทยทุกคนเฝ้ารอ เมื่อ 144 คนไทยในอู่ฮั่นจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดำเนินการตามขั้นตอนระหว่างประเทศอย่างดีที่สุด เพื่อพาคนไทยกลับมา โดยพรรคพลังประชารัฐให้กำลังใจให้ภารกิจดังกล่าวลุล่วงไปด้วยดี และเชื่อมั่นว่า144 คนไทยจะได้รับการดูแลอย่างดี

เนื่องจากทุกขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายและขนส่งเป็นไปตามหลักสากล เช่น มีทีมแพทย์เดินทางไปรับถึง 2 ทีม จากสถาบันบำราศนราดูรและแพทย์จากโรงพยาบาลกองทัพ ซึ่งผู้เดินทางทั้งหมดได้รับการตรวจคัดกรองจากทางการจีนในเบื้องต้นแล้วว่า ไม่พบการติดเชื้อ จึงให้เดินทางกลับได้ ทั้งนี้ตามขั้นตอนเมื่อถึงไทยแล้วทั้งหมดจะต้องถูกนำไปเฝ้าสังเกตอาการเพื่อกักกันโรคเป็นระยะเวลา 14 วัน ในสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ และไม่เครียด

“ที่ผ่านมาเชื่อว่าคนไทยทุกคนเป็นห่วง คนไทยที่เมืองอู่ฮั่น เมื่อพวกเขาได้เดินทางกลับมาแล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดี โดยที่ประชาชนไม่ต้องกังวลว่า คนไทยจากเมืองอู่ฮั่นจะนำเชื้อไวรัสโคโรน่ามาติด เพราะทั้งผ่านการคัดกรองเบื้องต้นจากจีน และการกักกันโรคตามขั้นตอนอีก ฉะนั้น จึงมั่นใจได้ เนื่องจากมาตรฐานทางสาธารณสุขของไทยอยู่ในระดับสูง แต่ที่น่าห่วงคือ ข่าวปลอมยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสร้างความเข้าใจผิดว่าเครื่องบินที่ไปรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่น จะมาลงจอดที่ดอนเมือง ซึ่งสร้างความแตกตื่นและความวิตกกังวล ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงแล้วเครื่องจะลงจอดที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง แต่ไม่ว่าจะลงจอดที่ใดก็ตาม จะไม่มีปัญหาเรื่องของการนำเชื้อไวรัสเข้ามาแพร่ระบาด เพราะมีมาตรการดูแลอย่างดี” น.ส.ทิพานัน กล่าว

รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยังคงหยิบยกกรณีรัฐบาลพาคนไทยกลับประเทศไม่ได้ ทั้งที่มีผลประโยชน์ร่วมกันหลายเรื่องขึ้นมาโจมตีว่า รู้สึกผิดหวังฝ่ายค้าน ที่ไม่เข้าใจหรือไม่ยอมเข้าใจว่าในสถานการณ์วิกฤตนี้ ไม่ได้มีประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ที่ประสานงานขอพาคนไทยกลับประเทศ ซึ่งทางการจีนย่อมต้องดำเนินการตามกระบวนการภายในของเขาก่อน

ฉะนั้นเมื่อจีนยินยอมเปิดทางให้เข้าไปพาคนไทยกับออกมาได้ รัฐบาลก็ไม่รีรอที่จะดำเนินการ ฉะนั้นควรจะยุติการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ เพราะการเคลื่อนย้ายคนในภาวะเช่นนี้มีความซับซ้อนหลายมิติ และมิติที่สำคัญคือชีวิตของคน ดังนั้นอย่าเอาชีวิตของคนมาเล่นประเด็นการเมืองอีกเลย