“ปิยะสกล” นัดคุย สปสช.แก้ปัญหา “ผู้ป่วยหัวใจ” รพ.มงกุฎวัฒนะ หวั่นต.ค.นี้ไม่เข้าเกณฑ์รักษาฟรี

แฟ้มภาพ

จากกรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ออกมาเปิดเผยถึงปัญหาการออกเกณฑ์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เกี่ยวกับการประกาศใช้เกณฑ์การตรวจประเมินเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วยวิธีการผ่าตัดในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นเกณฑ์ใหม่ประกาศใช้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์ดังกล่าวที่จะส่งผลให้ผู้ป่วยโรคหัวใจกว่า 40-50 คนรอคิวผ่าตัดใน รพ.ไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายสิทธิบัตรทองได้ ต้องจ่ายเงินเอง หรือส่งต่อไปรักษาเริ่มใหม่ใน รพ.รัฐอื่น ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเรื่องไม่สามารถเบิกจ่ายฉุกเฉินอีกนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กันยายน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า จริงๆ เกณฑ์ดังกล่าวได้ออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2560 ซึ่งจะใช้จริงในเดือนตุลาคมนี้ โดยตนได้หารือกับทาง นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสปสช. แล้ว และทราบว่าได้เข้าไปชี้แจงและร่วมหารือกับทางผู้อำนวยการ รพ.มงกุฎวัฒนะแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อทาง รพ.มงกุฎวัฒนะมีข้อคิดเห็นเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่จำเป็นต้องรักษาโรคหัวใจ ตนได้กำชับให้ทางเลขาธิการ สปสช. ไปดำเนินการหารือเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่าจะอย่างไรต่อ หากร่วมมือกันได้ก็ต้องร่วมมือกันทำ เพื่อประชาชนด้วยกัน

“ทราบมาว่าเรื่องนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ผ่านเกณฑ์กรณีบุคลากร คือ ไม่มีแพทย์หัวใจปฏิบัติงานประจำ ซึ่งตามเกณฑ์แล้วจำเป็นต้องมี อย่างน้อย 1 คน แม้ทาง รพ.จะระบุว่า มีแพทย์หมุนเวียนเป็นเวรตลอด 24 ชั่วโมง แต่ข้อเท็จจริง หากมีแพทย์ประจำก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนได้ด้วยหรือไม่ แต่เราก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นเรื่องนี้ ซึ่งผมจะมีการประชุมผู้บริหาร สปสช.เดือนละ 1 ครั้งอยู่แล้ว และช่วงเช้าวันที่ 21 กันยายนนี้ก็จะมีการประชุมเช่นกัน ซึ่งผมจะให้มีการหารือเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ และเรื่องอื่นๆ ที่ รพ.เอกชนมีส่วนร่วม เพราะเราต้องคุยต้องหารือให้เกิดความร่วมมือด้วยกัน เนื่องจากการร่วมมือทั้ง รพ.รัฐและเอกชน เป็นสิ่งที่ดี ยิ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนยิ่งเป็นเรื่องดี ดังนั้นอะไรที่มีปัญหาจะมีการหารือกันให้ชัดเจน คาดว่าจะทราบผลได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” นพ.ปิยะสกลกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง จะขอหารือกับทางรัฐมนตรีว่าการ สธ.เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ยินดี หากคิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ก็พร้อมคุยกันได้

ด้าน นพ.ประจักษวิช เล็บนาค รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า ผู้ป่วยบัตรทองทุกคนที่รับบริการใน รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะกรณีเป็นเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจในการส่งต่อมารับบริการ ซึ่งไม่ต้องกังวล เพราะ สปสช.จะไม่ยอมให้เดือดร้อนไปถึงผู้ป่วย จะหาทางในการช่วยเหลืออย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ทาง รพ.มงกุฎวัฒนะ ระบุว่า ด้วยความที่เป็นหน่วยบริการหลักด้วยจะไม่สามารถรักษาผู้ป่วยหัวใจที่ฉุกเฉินนั้น จริงๆ การที่เป็นหน่วยบริการหลัก หรือหน่วยบริการส่งต่อ หากมีศักยภาพช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน ก็ต้องรักษาอยู่แล้ว

“ไม่ต้องห่วง สปสช.จะหาทางจ่ายเงินให้อยู่แล้วในกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน เราไม่ให้คนไข้มาเสี่ยง ซึ่งทางรพ.ก็ต้องรักษา เพราะมีทั้งเรื่อง พ.ร.บ.สถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 และยังมีเรื่อง จรรยาบรรณของแพทย์อีก ซึ่ง สปสช.มีหน้าที่จ่ายก็ต้องจ่าย เรื่องขึ้นทะเบียนจริงๆ มีทางออกอยู่แล้ว แต่อย่างไรเสียต้องยึดคนไข้เป็นหลัก ขอย้ำว่า สปสช.พยายามหาทางแก้ไขอยู่ ขอให้มั่นใจผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต สปสช.จ่ายให้แน่นอน” รองเลขาธิการ สปสช.กล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์