เมื่อวันที่ 20 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้ออกประกาศเรื่อง ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) โดย สปสช. โดยมีการแจกเอกสารดังกล่าวให้แก่ผู้ป่วยที่มารับบริการที่โรงพยาบาล เพื่อทำความเข้าใจกรณี รพ.มงกุฎวัฒนะไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อการรักษาเฉพาะด้านโรคหัวใจ โดยให้เหตุผลว่า สปสช.ออกกฎเกณฑ์เพื่อใช้ประเมินโรงพยาบาลที่เป็น “หน่วยนอกระบบบัตรทอง” ที่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านในการรักษาโรคหัวใจ ทั้งการใส่สายสวนหัวใจและการผ่าตัดนั้น ต้องมีศัลยแพทย์หัวใจประจำระหว่างวันเวลาราชการ คือ จันทร์ถึงศุกร์ เวลา 08.00-16.00 น. และนำกฎเกณฑ์มาใช้กับหน่วยบริการประจำซึ่งเป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทอง ซึ่ง รพ.มงกุฎวัฒนะเป้นหน่วยบริการประจำ มีศัลยแพทย์หัวใจหมุนเวียนรับผิดชอบตามตารางเวรทุกวัน 24 ชั่วโมง ไม่ใช่แค่วันเวลาราชการ 5 วันๆ ละ 8 ชั่วโมง
การนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้กับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทำให้ รพ.ขาดคุณสมบัติ ทั้งที่ รพ.ไม่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านหัวใจ เพราะเป็นหน่วยบริการประจำที่ต้องรักษาทุกโรคอยู่แล้ว และต้องการรักษาผู้ป่วยในความรับผิดชอบเกือบ 2 แสนคน โดยผู้ป่วยไม่ต้องจ่ายค่ารักษา ซึ่งการรับส่งต่อภาระก็จะมากขึ้น ขาดทุนเพิ่มมากขึ้น แต่ สปสช.กล่าวอ้างว่า หาก รพ.มงกุฎวัฒนะไม่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านการทำหัตถการรักษาผ่านสายสวน และการผ่าตัดโรคหัวใจจะไม่สามารถเบิกค่ารักษาได้ หมายความว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจะต้องจ่ายค่ารักษาในการสวนหัวใจหรือผ่าตัดหัวใจเอง ทั้งที่เป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงและเป็นการเจ็บป่วยที่มีอัตราการตายสูง ขณะที่ สปสช.ก็ยังขาดแคลนหน่วยบริการส่งต่อเฉพาะด้าน แต่กลับออกกฎเกณฑ์ที่ทำให้หน่วยบริการประจำที่มีขดความสามารถอยู่แล้วต้องขาดคุณสมบัติ จนทำให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองต้องจ่ายค่ารักษาเอง เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจากการสร้างกฎเกณฑ์ของ สปสช.เอง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวยังระบุว่า รพ.มงกุฎวัฒนะได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการ สปสช.เพื่อให้ยุติมาตรการบังคับหน่วยบริการประจำแล้ว และแจ้งให้ทราบว่ามาตรการดังกล่าวอาจทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีนำไปเป็นประเด็นบั่นทอนรัฐบาลว่าลิดรอนสิทธิผู้ป่วยบัตรทอง และย้ำว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบบัตรทองมิได้เกิดจากความจำกัดของงบประมาณแผ่นดินเพียงอย่างเดียว แต่เหตุปัจจัยสำคัญยิ่งประการหนึ่งเกิดขึ้นจากหน่วยงาน สปสช.เอง
ที่มา : มติชนออนไลน์