ปปป.ค้น 14 จุด 7จว.พันทุจริตเงินทอนวัด 140 ล้าน แจ้งข้อหาอดีตบิ๊กพศ.ให้การไม่กังวลเตรียมชี้แจง

จากกรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดรวม 14 จุด ใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ขอนแก่น ระนอง สิงห์บุรี นครปฐม และสมุทรสาคร มีจุดสำคัญคือ บ้านพักของนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ใน อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงกระบวนการทุจริตเงินทอนวัด

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 21 กันยายน ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย และ ม.157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต กับผู้ต้องหา 3 คนประกอบด้วยนายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และนายพนม ศรศิลป์ ซึ่งมีพฤติกรรมในการทุจริตโดยได้ทำงบประมาณลงไปที่วัด เช่น งบประมาณอุดหนุนปฏิสังขรวัดหรือพัฒนาวัด เมื่อเอางบฯลงไปที่วัดก็มีการทุจริตเอางบกลับคืนมา ส่วนงบปริยัติธรรมได้มีการเอางบลงไปโดยที่วัดนั้นไม่มีโรงเรียนในการสอนพระปริยัติธรรม ซึ่งเป็นการทุจริตตั้งแต่เริ่มต้น และงบเผยแผ่ ในครั้งนี้ได้ดำเนินคดีจำนวน 23 คดี มีงบประมาณลงไปประมาณ 180 ล้านบาท มีการทุจริตเอาไป 140 ล้านบาท เงินถึงวัดจริงๆ ประมาณ 40 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 19 คน เป็นผู้ต้องหาในกลุ่มแรก 5 คน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาจะเป็นข้าราชการและอดีตข้าราชการในสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)จำนวน 13 คน พลเรือน 2 คน พระ 4 รูป

พล.ต.ต.กมล เปิดเผยต่อว่า ทั้งนี้ได้มีการดำเนินคดีกับนายณรงค์เดช 4 คดี ซึ่งทางนายณรงค์เดชได้รับทราบในข้อกล่าวหา แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ ซึ่งก็เป็นสิทธิที่สามารถจะกระทำได้ ส่วนนายพนมหากมีการสอบปากคำเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเชิญตัวมาที่ บก.ปปป. ในวันนี้มาการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 3 คน ส่วนอีก 16 คน จะมีการเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป หากไม่มาก็ไม่เป็นไร ทางบก.ปปป.จะรวบรวมเรื่องส่งไปที่ ปปช. ให้ทาง ปปช.ดำเนินการต่อ

ผบก.ปปป. กล่าวว่า การดำเนินคดีใน 12 คดีแรกทางปปช.ได้ส่งเรื่องกลับมาให้แล้ว ซึ่งจะทำการออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาทั้ง 9 คนเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ สำหรับนายพนมเป็นหนึ่งในผู้เซ็นอนุมัติงบสนับสนุนเงินอุดหนุนวัด สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จากการตรวจค้น เบื้องต้น ตำรวจพบทองคำแท่งจำนวนหนึ่ง โฉนดที่ดิน เอกสารการซื้อหุ้นสหกรณ์ สมุดบัญชีเงินฝาก พระเครื่องเบญจภาคี และยังพบหนังสือร้องเรียนภายในเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการอนุมัติงบอุดหนุนวัด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีทุจริตเงินวัดเฟสแรก 12 สำนวน และมีส่วนพัวพันทุจริตเงินอุดหนุนวัดเฟส 2 จากการตรวจค้นบ้านพักของนายนพรัตน์พบตู้เซฟภายในพบเงินสดจำนวน 170,000 บาท อัญมณี หนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจค้นบ้านนายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม อดีตนักวิชาการศาสนา กองส่งเสริมงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เนื่องจากการสืบสวนพบความเกี่ยวพันกับการอนุมัติงบสนับสนุนวัดย่านรามคำแหงและบางกอกน้อยนับสิบครั้ง มีงบที่ได้รับการอนุมัติไปแล้วกว่า 19 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2555 เบื้องต้นตำรวจตรวจค้นพบ เงินสด 1 แสนบาท เอกสารเกี่ยวกับงบประมาณอุดหนุนวัด และสมุดบัญชีธนาคาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 15.30 น. นายพนม ได้เดินทางเข้ามาที่ บก.ปปป. เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากรับทราบข้อกล่าว โดยเปิดกับสื่อมวลชนสั้นๆว่า ไม่กังวลใจ เพราะที่ตนถูกแจ้งข้อกล่าวหาเนื่องมาจาก ตนมีชื่ออนุมัติโครงการหนึ่งตอนยังดำรงตำแหน่งในพศ. ซึ่งหลังจากนี้จะไปรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้ามายื่นหนังสือชี้แจงกับทาง ปปป.

สำหรับปฏิบัติการปราบทุจริตเงินทอนวัดในรอบที่ 2 จากเป้าหมายวัด 47 แห่งที่ได้รับงบประมาณพบว่า มีวัดที่พบการทุจริตจำนวน 23 วัดประกอบด้วย วัดราชสิทธารามฯ วัดพิชยญาติการาม วัดบำเพ็ญเหนือ วัดสุวรรณารามฯ วัดดาวดึงษาราม วัดกวิศรารามฯ วัดบางระกำ วัดยางโองน้ำ วัดยางโองสันกลาง วัดยางโองบน วัดลาดแค วัดโคกสารสัจจธรรม วัดญาณเมธี วัดปากดงสามัคคีธรรม วัดหนองสะเอ้ง วัดรังงามปทุมรักษ์ วัดศรีบุญนำ วัดห้วยทรายขาว วัดไร่ขิง วัดช้าง วัดดอนสะท้อน วัดท้องตมใหญ่ วัดเล็บกระรอก ซึ่งเงินดังกล่าวมาจาก 3 งบประมาณของสำนักพุทธ คือ งบบูรณะปฏิสังขรณ์ งบเผยแผ่ศาสนา และงบปริยัติธรรม

 

ที่มา : มติชนออนไลน์