ในประเทศ

ทลายสถานเสริมความงามเถื่อน! เมืองสงขลา จองคิวผ่านเฟซบุ๊ก อ้างลูกค้าซื้อสารมาเองแค่ฉีดให้อย่างเดียว

ตำรวจกองปราบปรามร่วมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสงขลาบุกทลายสถานเสริมความงามเถื่อนบริการฉีดสารเสริมความงามทั้งร่างกาย 7 รายการ ทำมาแล้ว 2 เดือน ติดต่อจองคิวผ่านทางเฟซบุ๊ก ราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 กันยายน 2560 พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.ภัทราวุธ อ่อนช่วย สารวัตรกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม และเภสัชกรธรรมชน ฉายบุญชยภัทร เภสัชกรเชี่ยวชาญ หัวหน้าฝ่ายสถานพยาบาลและเวชภัณฑ์ สำนักงานสาธารณสุข จ.สงขลา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.สงขลา เข้าตรวจค้นภายในบริษัทเซ็กซี่มี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งอยู่ริมถนนสายกาญจนวนิช เลขที่ 66/14 หมู่ 1 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าลักลอบเปิดเป็นสถานพยาบาลประเภทเสริมความงามโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการฉีดสารเสริมความงามให้กับลูกค้าทั้งที่ไม่ใช่แพทย์

รายงานข่าวว่า ก่อนที่จะเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้วางแผนส่งสายซึ่งเป็นผู้หญิงเข้าไปติดต่อขอใช้บริการเสริมความงาม จนแน่ชัดว่าให้บริการเสริมความงามจริงจึงได้จู่โจมเข้าตรวจค้นภายในบริษัท และพบ น.ส.กมลา นุ้ยภิญโย อายุ 28 ปี ซึ่งรับเป็นเจ้าของบริษัทและผู้ที่ทำหน้าที่ฉีดสารเสริมความงามให้กับลูกค้า และลูกน้องซึ่งเป็นเยาวชน อายุ 17 ปี 1 คน

รายงานข่าวว่า จากการตรวจค้นภายในบริษัท พบว่าชั้นล่างเตรียมเปิดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ส่วนบนชั้น 3 ห้องด้านหน้าถูกใช้เป็นห้องฉีดสารเสริมความงามพร้อมเตียงแบบเดียวกับที่ใช้ในสถานพยาบาลและคลินิกทั่วไป 2 เตียง เสื้อกาวน์แบบที่แพทย์ใส่ มีข้อความข้างหลังว่าศูนย์หนังสือจุฬา

“ภายในห้องยังพบสารเสริมความงามหลายชนิด เช่น กลูต้าฉีดผิวขาว วิตามินซี รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เข็มฉีดยา ยาชา น้ำเกลือ สำลี และในถังขยะยังพบเข็มฉีดยา ถุงมือ สำลี และสารเสริมความงามกลูต้าผิวขาวที่ถูกใช้แล้วทิ้งไว้”

จากการสอบสวน น.ส.กมลา ในเบื้องต้นให้การว่าสารเสริมความงามที่พบในห้อง ลูกค้าเป็นคนซื้อมาให้ฉีดเอง ไม่ได้เป็นของตน และในวันนี้ได้ฉีดกลูต้าผิวขาวให้ลูกค้าไป 1 รายเมื่อช่วงเช้า สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการจะมีการติดต่อจองคิวผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อน๊อท เซเลบริตี้ ซึ่งเป็นลูกน้องของตนเอง

เจ้าหน้าที่จึงเก็บสิ่งของภายในห้องเอาไว้เป็นของกลางและควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม และแจ้งข้อหาเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์