“ภูเก็ต”พบผู้ติดเชื้อชาวสวีเดน-ไทย เพิ่ม อีก 10 ราย รวมยอดสะสมพุ่ง 119 ราย

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จังหวัดภูเก็ต ประจำวันที่ 5 เมษายน 2563 ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 4 เมษายน 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 119 ราย (รายใหม่ 10 ราย) โดยผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 20 ราย กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 99 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 1 ราย ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้ผู้ป่วยทั้ง 119 รายนี้รวมอยู่ในรายงานผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันที่กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงไปก่อนหน้านี้แล้ว

ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,574 ราย (รายใหม่ 151 ราย) โดยยังคงรักษาพยาบาล 190 ราย ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 91 ราย กลับบ้านแล้ว 1,384 ราย
สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ทั้ง 10 ราย มีรายละเอียด ดังนี้

– ลำดับที่ 1 ผู้ป่วยรายที่ 110 ผู้ชายชาวสวีเดน อายุ 40 ปี เป็นนักท่องเที่ยว มาถึงประเทศไทยวันที่ 13 มีนาคม เดินทางมาเที่ยวกับภรรยา ซึ่งได้รับการตรวจยืนยันเป็นผู้ป่วยโรคโควิด – 19 รายที่ 77 เมื่อวันที่ 1 เมษายน มีประวัติไปบริเวณซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ยังไม่มีอาการป่วย ผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ 7 ราย

– ลำดับที่ 2 ผู้ป่วยรายที่ 111 ผู้หญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพแม่บ้าน เป็นภรรยาของผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด – 19 รายที่ 41 ชาวอิตาลี ที่ทำงานในสถานบันเทิงบริเวณซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 2 เมษายน 2563 ผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ 2 ราย

– ลำดับที่ 3 ผู้ป่วยรายที่ 112 ผู้หญิงไทย อายุ 55 ปี อาชีพแม่บ้าน เป็นภรรยาของผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด – 19 รายที่ 94 พักอาศัยในบ้านหลังเดียวกัน ยังไม่มีอาการป่วย มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 2 ราย

– ลำดับที่ 4 ผู้ป่วยรายที่ 113 ผู้ชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพพนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ป่าตอง ทำงานในโรงแรมที่ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 58 พักอยู่ก่อนที่จะป่วย มีประวัติสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 22 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 6 ราย

– ลำดับที่ 5 ผู้ป่วยรายที่ 114 ผู้หญิงไทย อายุ 23 ปี อาชีพพนักงานร้านอาหาร อาศัยและทำงานที่เดียวกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 92 โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 29 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 5 ราย

– ลำดับที่ 6 ผู้ป่วยรายที่ 115 ผู้ชายไทย อายุ 38 ปี อาชีพพนักงานห้างสรรพสินค้า ในเขตป่าตอง มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 48 โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 25 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 9 ราย

– ลำดับที่ 7 ผู้ป่วยรายที่ 116 ผู้ชายไทย อายุ 27 ปี อาชีพช่างเชื่อมเหล็ก ในพื้นที่บางเทา ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง เป็นบุตรชายของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 94 โดยทำงานและพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ยังไม่มีอาการป่วย มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 2 ราย

– ลำดับที่ 8 ผู้ป่วยรายที่ 117 ผู้หญิงไทย อายุ 32 ปี อาชีพขายของชำ ในพื้นที่บางเทา ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง เป็นบุตรสาวของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 94 อาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังหนึ่งในละแวกใกล้เคียงกัน โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 30 มีนาคม 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 4 ราย

– ลำดับที่ 9 ผู้ป่วยรายที่ 118 ผู้หญิงไทย อายุ 28 ปี อาชีพแม่บ้าน เป็นลูกสะใภ้ของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 94 พักอาศัยในบ้านหลังเดียวกัน ยังไม่มีอาการป่วย
มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 2 ราย

– ลำดับที่ 10 ผู้ป่วยรายที่ 129 ผู้หญิงไทย อายุ 74 ปี อาชีพขายของชำ ในพื้นที่บางเทา ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง เป็นแม่ยายของผู้ป่วยยืนยันรายที่ 94 อาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังหนึ่งในละแวกใกล้เคียงกัน
โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 3 เมษายน 2563 มีผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายนี้ จำนวน 8 ราย

ทั้งนี้ผู้ป่วยทุกราย ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวนควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ 10 รายเป็นกลุ่มผู้สัมผัสของผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าทั้งหมด ซึ่งทางทีมสอบสวนโรคได้สอบสวนและนำมากักตัวพร้อมทั้งตรวจหาเชื้อโดยที่บางคนยังไม่แสดงอาการ

จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าโรคโควิด-19 นี้สามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ทำงานใกล้ชิดกัน มีการพูดคุย สัมผัส หรือใช้สิ่งของร่วมกัน


จึงขอเน้นย้ำกลุ่มเสี่ยงและประชาชน ทุกคน เรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ถึงแม้จะไม่มีอาการป่วยก็ควรแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น
งดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปในที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะ ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์พร้อมทั้งแจ้งประวัติตามความจริง อย่างละเอียดโดยด่วน สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด