ครม.ยกเว้นภาษีนำเข้าสูตรผสมต้านไวรัสเอดส์ ใช้สู้โควิด -19

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

วันที่ 7 เมษายน 2563 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การยกเว้นอากรขาเข้ายาสูตรผสมที่ใช้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้ยกเว้นอากรขาเข้ายาโลปินาเวียร์และริโทนาเวียร์ และสูตรผสมสำหรับใช้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ตามประเภทย่อย 3003.90 ตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงการคลัง จากเดิมมีอัตราอากรขาเข้าร้อยละ 10 เพื่อให้ผู้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์มีความคล่องตัวในการเลือกใช้วัตถุดิบ

สำหรับการพิจารณายกเว้นอากรขาเข้าสินค้ายาสูตรผสมที่ใช้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ที่รักษาโรคอื่นได้ จะต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลยาในรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งนี้ การยกเว้นอากรขาเข้ายาสูตรผสม (ประเภทย่อย 3003.90) ที่ใช้ผลิตยาต้านไวรัสเอดส์เท่านั้น โดยจะทำให้สูญเสียรายได้ภาษีอากรประมาณ 50 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการยกเว้นอากรดังกล่าวจะส่งผลให้ลดการนำเข้ายาต้านไวรัสเอดส์สำเร็จรูป ลดภาระต้นทุนการผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ และเพิ่มการเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์


เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่ว่าจะอยู่ในพิกัดประเภทใด ทั้งนี้ ตามรายการที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด โดยแก้ไขวันใช้บังคับจากเดิม “ให้มีผลใช้บังคับนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563” เป็น “ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563” เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563