7 วันสรุปผลสืบสวน”รอง ผบก.น.5″พัวพันเก๋งคัมรีพา”ปู”หนี “ศรีวราห์”ส่งคำให้การ2แฟ้มใหญ่ให้กรรมการสืบ

เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เรียกประชุม พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.รวิโรจน์ เปล่งศรียศภัทร รรท.ผกก. (กลุ่มงานสอบสวน) บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ภูริส จินตรานันท์ รอง ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.อรุณ เลิศศักดิ์เกษตร สว. (สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร โดยทั้งหมดเป็นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รองผบก.น.5) มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฌข 5323 กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบไม่พบหมายเลขทะเบียนรถดังกล่าวในสารบบของกรมการขนส่งทางบก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้บริเวณใต้อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แขวงและเขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 22 กันยายน เวลา 23.30 น. ตามคดีอาญาของ สน.ปทุมวัน ที่ 997/2560 ลงวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ยึดระเบียบแบบแผนตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนตามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อย่างเคร่งครัด และแสวงหาพยานหลักฐานให้ครบถ้วน คำสั่งที่อยู่ในมือบอกว่า พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รอง ผบก.น.) มีพฤติการณ์นำรถยนต์ซึ่งไม่มีอยู่ในสารบบ อันนี้คือต้นเรื่องเมื่อไปดูรายละเอียดคำว่าพฤติการณ์ มีเรื่องค่อนข้างต่อเนื่องเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่าย จะต้องเคร่งครัดในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวต่อว่า ส่วนการจะเรียก พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์มาให้ปากคำนั้น ตามระเบียบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้ตนเป็นประธานกรรมการสอบ พล.ต.ท.ศานิตย์ ต้องมีหนังสือไปถึง พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงขึ้นมา ตนมีหน้าที่ตั้งแต่ตั้งเรื่องสอบพยานบุคคล สอบพยานแวดล้อมต่างๆ จากนั้นถ้าเห็นว่าการกระทำของ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ผิดหรือไม่ผิดอาญา วินัยอย่างไร จะต้องเรียก พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์มาชี้แจงและแจ้งเรื่องราวต่างๆ ให้ทราบ ส่วนพยานหลักฐานต่างๆ ทางคณะกรรมการต้องแสวงหาพยานหลักฐานทุกอย่างให้ครบถ้วนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับสำนวนการให้ปากคำที่รับมาจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ มาจำนวน 2 แฟ้มใหญ่นั้น ต้องดูรายละเอียดว่า พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ มีเจตนาพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีจำนำข้าวที่ศาลให้การประกัน โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หลบหนีหรือไม่ รายละเอียดตรงนี้ต้องให้ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ชี้แจงขึ้นมาก่อน ตนถึงพิจารณาได้ ตนในฐานะรอง ผบช.น.ดูแลความมั่นคง นอกจากสำนวนที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์จะเติมเต็มสาเหตุที่ผู้ใหญ่เปลี่ยนตัวกรรมการสอบสวนเพื่อเพิ่มเติมสำนวนให้สมบูรณ์ครบถ้วนมากขึ้น

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวด้วยว่า ส่วนตำรวจอีก 2 นาย อาจสอบเป็นพยานบุคคลตามปกติ ส่วนเรื่องวินัยหน่วยงานไหนรับผิดชอบก็ดำเนินการ กรณีในส่วนของตำรวจ 2 นาย สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) ให้ทาง บช.ภ.7 สอบสวน ส่วน พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อยู่ บก.น.5 สังกัด บช.น. ก็ต้องดำเนินการ ส่วนจะประสานสำนวนของ บช.ภ.7 กับ บช.น.หรือไม่ หากมีคำพาดพิงถึงก็ต้องไปสอบ คาดว่าภายใน 7 วันจะสรุปผลการสอบสวน

 

ที่มา : มติชนออนไลน์