“ยะลาผลบวกเป็นลบทั้ง 40 ราย รัฐไทยปิดข่าวหรือเปล่า” เพื่อนหมอสุภัทร ตั้งคำถาม

ภาพจาก เฟซบุ๊ก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา รองประธานชมรมแพทย์ชนบทภาคใต้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งประเด็น ว่า “ยะลาผลบวกเป็นลบทั้ง 40 ราย รัฐไทยปิดข่าวหรือเปล่า”

กรณีที่ จ.ยะลา ที่มีการคัดกรองแบบสแกนตรวจเชื้อในพื้นที่ระบาด แล้วมีรายงานผลจากห้องปฏิบัติการ (lab)หลุดออกมาว่า “พบผู้ติดเชื้อโควิดรวดเดียว 40 รายจากกลุ่มตัวอย่างที่ตรวจ 311 ราย” ข่าวนี้สร้างความแตกตื่นอย่างมาก เงียบกันไปทั้งเมืองยะลา แต่ก็สร้างความน่าสงสัยสำหรับสายสุขภาพมากว่า “จริงหรือไม่”

การคัดกรองในชุมชนนั้น ผู้ถูกคัดกรองส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ผลการตรวจออกมาพบว่าติดเชื้อจำนวนมาก จึงทำให้เกิดคำถามในหมู่ผู้ปฏิบัติงาน วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการไปเก็บตัวอย่างซ้ำ ส่งตรวจไปยังห้อง lab ที่อื่นเพื่อยืนยันผล และผลจากห้อง lab สคร.สงขลา ยืนยันก็ออกมากลับตาลปัตรว่า “negative ทั้ง 40 ราย ไม่พบการติดเชื้อโควิด”

คำถามที่ผมได้รับจากพรรคพวกเพื่อนฝูงคือ “รัฐบาลไทยปิดข่าว ตกแต่งตัวเลขหรือเปล่า” ซึ่งเป็นคำถามที่เข้าใจได้ เพราะบุคลิกการปกปิดข่าวของรัฐบาลไทยในอดีตนั้นมีอยู่ และความน่าเชื่อถือของรัฐบาลก็มีไม่มาก”

เหตุที่ห้อง lab รพ.ยะลา รายงานผลเป็นบวกนั้น เป็นความผิดพลาดทางเทคนิค เข้าใจว่าเกิดจากการปนเปื้อนของไวรัสโควิดในระบบเครื่องตรวจ RT- PCR ทั้งนี้ ในการตรวจพบว่า หลอดที่เป็นน้ำไม่มีตัวเชื้อ ที่เป็นตัว control (No Template Control) ซึ่งในการเดินเครื่อง PCR ทุกรอบก็ต้องมีการ control ด้วย NTC เสมอ นั้น ที่ lab ยะลาผลการทดสอบของ NTC เป็นบวกด้วย ซึ่งบอกถึงการปนเปื้อน จึงทำให้ไม่อาจตัดสินได้ว่า ผลการตรวจนั้นเป็นผลบวกจริง (true positive) หรือ ผลบวกลวง (false positive) จึงต้องตรวจใหม่ทั้งหมด

เรื่องเทคนิคทางห้องปฏิบัติการก็ว่าไปหมู่นักเทคนิคการแพทย์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ “ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลไทย” ที่ต่างไถ่ถามนินทาว่า “ไม่เชื่อ” หาว่ารัฐบาล “ปิดข่าว บิดเบือนข่าว” ต้องบอกกันตรงๆว่า “กรณีนี้ไม่มีการบิดเบือนข่าว” ข่าวจริงคงปิดกันไม่ได้ ปิดไม่อยู่ และในความเป็นจริงที่ประชาชนมีวุฒิภาวะในการร่วมตัดสินใจเองได้ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การปิดข่าวเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่งอยู่แล้ว

โควิดทำให้คะแนนรัฐบาลตีตื้นขึ้นมาหรือไม่ ทำให้คนศรัทธาเชื่อมั่นในรัฐบาลมากขึ้นหรือไม่ คำตอบส่วนหนึ่งคงชัดเจนจากกรณีนี้