“กรมอนามัย” พบร้านเสริมสวย-ตัดผม ตกเกณฑ์คัดกรองผู้รับบริการ

วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ที่ศูนย์แถลงความความคืบหน้า สถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย ได้เปิดเผยผลการประเมินร้านเสริมสวย และสถานที่ให้บริการดูแลรักษาสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ ที่ได้รับการผ่อนปรน พบว่าร้านเสริมสวยผ่านเกณฑ์ดีเยี่ยมร้อยละ 27 ส่วนร้านสปาสัตว์ผ่านเกณฑ์ดีเยี่ยมร้อยละ 40 ส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์เรื่องการคัดกรองก่อนรับบริการ และการสวมอุปกรณ์ป้องกันของพนักงาน

นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย ได้รับมอบหมายให้เตรียมแนวทางการปฏิบัติสำหรับกิจการ สถานที่ที่ได้รับการผ่อนปรนให้เปิดบริการ โดยในระยะแรกเป็นกิจการที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมสูง เช่น ร้านจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม สำหรับสุภาพบุรุษหรือสตรี สถานที่ให้บริการดูแลรักษาสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ กิจกรรมการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ เป็นต้น

หลังจากที่เปิดดำเนินการระยะหนึ่ง กรมอนามัยได้สำรวจ 3 ส่วน คือ สุขอนามัย การเว้นระยะห่าง และความสะอาดด้านสุขาภิบาล ในสถานประกอบกิจการ 77 จังหวัด ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยเฉพาะกิจการ 2 ประเภท ได้แก่ การตัดผม เสริมสวย และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง

ผลการประเมินร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม พบว่า ผ่านเกณฑ์มาตรฐานดีเยี่ยมร้อละ 27 ผ่านเกณฑ์พื้นฐานร้อยละ 9 และไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 63 ซึ่งส่วนที่ตกเกณฑ์ไปเป็นรายละเอียดปลีกย่อย สูงสุด คือ การบันทึกบันทึกชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรวันและเวลาของผู้มารับบริการทุกราย ตกเกณฑ์ถึงร้อยละ 43 รองลงมาได้แก่ จุดคัดกรองพนักงานและผู้มารับบริการ ตกเกณฑ์ร้อยละ 30.26 , ผู้ให้บริการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย แผ่นใสครอบหน้า (Face Shield) และผ้ากันเปื้อน เสื้อคลุมที่สะอาดตลอดเวลาที่อยู่ในร้าน ตกเกณฑ์ร้อยละ 15.38 ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องให้คำแนะนำกับทางผู้ประกอบการต่อไป แต่ด้านสุขอนามัยอื่นถือว่าผ่านได้ค่อนข้างดี

สำหรับร้านสปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ ทำได้ค่อนข้างดี ผ่านเกณฑ์ดีเยี่ยมได้ถึงร้อยละ 40 ผ่านเกณฑ์พื้นฐานร้อยละ 7 และไม่ผ่านเกณฑ์ร้ยละ 53 ส่วนที่ตกเกณฑ์คือจุดคัดกรองพนักงานและผู้มารับบริการ ตกเกณฑ์ร้อยละ 25.97 รองลงมาคือ ผู้ให้บริการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย แผ่นใสครอบหน้า (Face Shield) สวมถุงมือยาง หมวกคลุมผม และผ้ากันเปื้อนที่สะอาดทุกครั้งที่ให้บริการตกเกณฑ์ร้อยละ 16.88 และกาจัดที่ยืนสำหรับลูกค้าที่รอชำระเงิน เว้นระยะห่าง 1–2 เมตร ตกเกณฑ์ร้อยละ 16.88
นายแพทย์ดนัย กล่าวต่อว่า สำหรับสถานบริการเสริมสวย แต่งผม แต่งเล็บ อาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย เบื้องต้นให้จัดบริการเฉพาะที่จำเป็น ได้แก่ การสระ ตัด ซอยผม แต่งผม ขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้นวดหน้า ทำเล็บ ขอให้รอการประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ว่าจะผ่อนคลายกิจกรรมใดบ้าง เบื้องต้นมีแนวโน้มจะผ่อนคลายให้ดำเนินฟลูออปชั่น หรือเต็มรูปแบบแล้ว แต่อย่างไรก็ตามจะต้องดำเนินไปตามหลักสุขาภิบาลด้วย


ส่วนสถานที่ให้บริการดูแลรักษาสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ ต้องคำนึงถึงการลดการแพร่กระจายเชื้อจากคนสู่คน สัตว์สู่คน หรือจากการปนเปื้อนผ่านของใช้ อุปกรณ์ต่างๆ กรมอนามัยจึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับเจ้าของร้าน พนักงานหรือผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ โดยยึดหลักการ “ลดสัมผัส ลดเวลา และลดความหนาแน่น” สิ่งสำคัญคือ จะต้องจำกัดเวลาและจำนวนผู้รับบริการ ไม่ให้มีการนั่งรอ ให้นัดล่วงหน้า ทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ สิ่งของเครื่องใช้ด้วยน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคด้วยแอลกอฮอล์ 70 % หรือโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% หลังให้บริการทุกครั้ง จัดระยะห่างเก้าอี้ 1- 2 เมตร หรือมีแผ่นพลาสติก แผ่นอะคริลิกใสกั้น ผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย แผ่นใสครอบหน้า (Face Shield) เสื้อคลุมที่สะอาดทุกครั้งที่ให้บริการ