ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2563 ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกทม. ที่มีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากทม.เป็นประธาน ได้มีมาตรการผ่อนปรนสถานที่ต่างๆจำนวน 10 แห่ง หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2ออกมา
อย่างไรก็ตาม จะมีประกาศกทม.ออกมาอีกครั้งภายในวันนี้ ซึ่งจะมีรายละเอียดของกิจกรรมต่างๆกำกับครบถ้วน โดย 10 สถานที่ต่างๆที่อนุญาตให้เปิดบริการจะมีผลในวันที่17 พ.ค.นี้ และต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
โดยทั้ง 10 แห่งประกอบด้วย 1. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ กำหนดให้เปิดบริการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.ของทุกวัน โดยจำกัดจำนวนคนตามเกณฑ์1 คน/ พื้นที่ 5 ตารางเมตร
ส่วนร้านอาหารและเครื่องดื่ม (เว้นร้านบุฟเฟ่ต์, ปิ้งย่าง, ชาบู และร้านที่ต้องรับประทานเป็นหมู่คณะ) อนุญาตให้เปิดทำการได้ทั้งรับประทานในร้านและซื้อกลับ แต่การรับประทานในร้านจะต้องนำมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการ Soical Distancing ต้องมีระยะห่างไม่ต่ำกว่า 1.5-2 เมตร แต่หากทำไม่ได้ต้องมีฉากกั้นระหว่างกัน
ทั้งนี้ ยังงดเว้นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับรับประทานในร้านโดยเด็ดขาด แต่สามารถซื้อไปรับประทานที่อื่นได้
2.ร้านอื่นๆในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ อนุญาตเปิดได้ทุกร้าน ยกเว้นโรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์ประชุม ศูนย์พระเครื่อง โรงเรียนกวดวิชา คาราโอเกะ และตู้เกมส์ เป็นต้น
3.สถานรับเลี้ยง หรือสถานสงเคราะห์ผู้สูงวัย เปิดให้บริการได้เฉพาะ บริการแบบไปเช้าเย็นกลับ ยังไม่มีค้างคืน
4.ห้องประชุมและศูนย์ประชุมต่างๆ อนุญาตให้เฉพาะงานที่มีผู้คนเข้าร่วมแค่ 50 คนเท่านั้น และขอความร่วมมือให้เฉพาะหน่วยงานเดียวจัดไปก่อน เพื่อง่ายต่อการคัดกรอง
5.กองถ่ายรายการ ภาพยนตร์ และละคร จำกัดจำนวนทีมงานทั้งหมดไม่เกิน 50 คน ส่วนผู้ที่ยะต้องมาอยู่หน้ากล้องจำกัดแค่ 10 คนเท่านั้น และก่อนถ่ายทำ 1 วันจะต้องขออนุญาตสำนักงานเขตที่ถ่ายกฃทำก่อน ส่วนการถ่ายทำรายการในสตูดิโอใช้หลักการเดียวกัน แต่จะต้องไม่มีผู้ชมในสตูดิโอโดยเด็ดขาด
6.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม อนุญาตให้เปิดได้ งดเว้นการบริการบนใบหน้า เช่น การฉีดฟีลเลอร์ การกดสิว เป็นต้น เนื่องจากการเสริมความงามบนใบหน้าไม่สามารถใช้มาตรการป้องกันต่างๆ จึงขอให้งดเว้นไปก่อน
7.ฟิตเนสที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า อนุญาตเฉพาะกิจกรรมประเภทฟรีเวทและโยคะเท่านั้น โดยจำกัดเวลาใช้บริการ 2 ชม./ครั้ง ซึ่งผู้ที่จะเล่นโยคะจะต้องเตรียมเสื่อโยคะมาเอง
8.กิจกรรมกีฬาในร่ม อนุญาตประเภทกีฬาที่มีผู้เล่นไม่เยอะ เช่น แบดมินตัน ปิงปอง ตะกร้อ เป็นต้น และยังไม่ให้จัดกิจกรรมแข่งขันในช่วงนี้ ซึ่งการเล่นกีฬาในร่มจะไม่อนุญาตให้มีผู้ชมเด็ดขาด
9.สระว่ายน้ำสาธารณะ ทั้งในคอนโด หมู่บ้านและที่อื่นๆ อนุญาตให้เปิดบริการระหว่างเวลา 06.00-18.00 น. จำกัดจำนวนผู้ใช้โดยใช้เกณฑ์1 คน/150 ตารางเมตร และให้ใช้บริการได้ 1 ชม./ครั้ง
และ10. พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด สวนพฤกษชาติ ให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ หากเห็นว่ามีผู้ใช้บริการหนาแน่น ให้มีการจองคิว และในระหว่างใช้บริการจะต้องเว้นระยะห่างกัน 1-2 เมตร
หลังจากผ่อนปรนแล้ว กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่ทั้งเทศกิจและตำรวจท้องที่ในการตรวจตราความเรียบร้อย โดยการประเมินผลในการผ่อนปรนเฟส 3 จะขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาลเป็นหลัก หากรัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนเฟส 3 กทม.ก็จะพิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้ง