โฆษก ศบค.เผยผลสำรวจ ประชาชน”การ์ดตก” ชัดเจน ระดมตรวจกลุ่มเสี่ยง 1 แสนราย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2563 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย สะสม 3,083 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย สะสม 58 ราย หายป่วยแล้ว 2,966 ราย ยังรักษาอยู่โรงพยาบาล 59 ราย

ต่อข้อถามที่ว่าระยะหลังผู้ป่วยรายใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่่างประเทศ ปัจจุบันมีการตรวจเชิงรุกหรือไม่ว่า นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ปัจจุบันเราอยู่ในระยะผ่อนปรนระยะที่3 ก็ยังกังวลใจว่าจะมีการติดเชื้อกันในประเทศบ้างไหม เพราะต้องไปควานหากัน เรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขมีการประชุมกันอยู่บ่อยครั้ง มีการนำตัวเลขมาเทียบเคียงกันเป็นรายวัน รายสัปดาห์ ซึ่งตอนนี้มีมาตรการการเฝ้าระวังการป้องกันโรคและค้นหาการติดเชื้อในประชากรกลุ่มเสี่ยง และสถานที่เสี่ยง ทั้งหมดตั้งเป้าไว้ประมาณ 1 แสนราย ตอนนี้ทำมาตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว ตอนนี้ได้รับรายงานว่ามีการตรวจไปแล้ว 32,568 ราย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 1 ใน 3 แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีรายงานการตรวจพบเชื้อในกลุ่มนี้เลย

สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการตรวจมีกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ต้องขังแรกรับ ผู้ที่มีอาชีพพบปะผู้คนจำนวนมาก ซึ่งถ้าตอนนี้ถ้าใครมีชื่อเรียกไปตรวจก็ขอให้ความร่วมมือด้วย เพื่อจะได้ให้ความมั่นใจว่าสังคมไทยของเราจะปลอดเชื้อแน่นอน

ต่อข้อถามเรื่องเสียงสะท้อนว่าการ์ดเริ่มตก นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า น่ากังวลใจ ซึ่งจากการสำรวจของนิด้าโพล ที่เพิ่งสำรวจล่าสุด พบว่าจากการเมื่อถามถึงการเข้าไปสถานที่หรือเคยได้ทำกิจกรรมตามที่ได้รับการผ่อนปรน ตั้งแต่รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.08 ระบุว่า ยังไม่เคยเข้าไปในสถานที่หรือทำกิจกรรมตามที่ได้รับการผ่อนปรนเลย รองลงมา ร้อยละ 24.80 ระบุว่า เข้าศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้อยละ 11.61 ระบุว่า ใช้บริการร้านตัดผมชาย ร้านทำผมสตรี ร้อยละ 8.03 ระบุว่า เข้าร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ ร้อยละ 6.20 ระบุว่า เข้าไปนั่งทานอาหารในร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ร้อยละ 0.72 ระบุว่า ใช้บริการคลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ร้อยละ 0.48 ระบุว่า ใช้บริการโรงยิม ฟิตเนส สถานที่ออกกำลังกายในร่ม ร้อยละ 0.32 ระบุว่า ใช้ห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม ร้อยละ 0.16 ระบุว่า ใช้บริการสระว่ายน้ำสาธารณะ และร้อยละ 0.08 ระบุว่า เข้าห้องสมุดสาธารณะ แกลลอรี่ พิพิธภัณฑ์

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนกับคำว่า การ์ดตก ของคนในสังคม ตั้งแต่รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 พบว่า ร้อยละ 6.12 ระบุว่า คนในสังคม การ์ดตกมาก เพราะ คนในสังคมเริ่มไม่มีการป้องกันตัวเอง ไม่สวมหน้ากากอนามัย ตลาดสด ตลาดนัดไม่จำกัดการเข้า-ออกของผู้ซื้อ รถประจำทางเอกชนบางสายไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม ร้อยละ 32.99 ระบุว่า คนในสังคม การ์ดค่อนข้างตก เพราะ คนในสังคมขาดความระมัดระวัง ประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ค่อยสวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากชะล่าใจกับจำนวนของผู้ที่ติดเชื้อที่ลดลงมาก ร้อยละ 27.66 ระบุว่า คนในสังคม การ์ดไม่ค่อยตก เพราะ คนในสังคมส่วนใหญ่ยังให้ความร่วมมือ มีความตระหนักถึงความปลอดภัย มีการระมัดระวังตัว ป้องกันตัวเองค่อนข้างดี ร้อยละ 29.18 ระบุว่า คนในสังคม การ์ดไม่ตกเลย เพราะ คนในสังคมส่วนใหญ่มีการปฏิบัติตนตามมาตรการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด มีการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้านทุกครั้ง

“เมื่อรวมการสำรวจระหว่างการ์ดไม่ค่อยตก กับการ์ดไม่ตกเลย ก็เกินกว่า 50% แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่พอ ถ้าเราจะสู้กับโรคนี้ได้ ต้อง 90% ขึ้นไป เราถึงจะสู้กับโรคนี้ได้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว