“อนุทิน” เดินหน้า Travel Bubble เปิดประเทศรับกลุ่มธุรกิจ-วิศวกร

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการจับคู่ท่องเที่ยวจับคู่กับต่างประเทศที่บริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี (Travel Bubble) ว่า ตอนนี้เราเปิดกว้างหมด ใครที่พร้อมเข้ามาจับคู่ เช่น จีน สิงคโปร์ ก็กำลังหาวิธีที่จะเริ่มเจรจา แต่ต้องนำข้อเสนอ และความตกลงทั้งหลายให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) พิจารณา เพื่อให้เกิดการเข้าใจกันทุกฝ่าย และยืนยันเราไม่ได้ดึงไว้ เพียงแต่เราจะหาวิธีการที่ปลอดภัย จึงต้องหารือหลายฝ่าย แต่ต้องทำให้เร็วที่สุด เงื่อนไขต่าง ๆ เตรียมร่างไว้หมดแล้ว เหลือแต่ตกแต่งให้ดูดี ปฏิบัติได้สะดวก และปลอดภัย เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องของความปลอดภัย

@ ให้กลุ่มธุรกิจ-วิศวกร พวกแรก

นายอนุทินกล่าวว่า หากเริ่มจะจำกัดเฉพาะกลุ่มก่อน โดยเริ่มจากกลุ่มธุรกิจ วิศวกรที่ต้องเดินทางเข้ามาดูแลเครื่องจักรอะไรต่าง ๆ แล้วค่อยขยับไป อย่างที่เห็นข้อตกลงของบางประเทศเขาก็เริ่มที่กลุ่มธุรกิจแล้วขยับไป ส่วนการจับคู่กับประเทศจีนที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นนั้น ยังต้องดูว่าเขาบริหารจัดการผู้ป่วยอย่างไร หากจะเน้นเพียงว่าต้องไม่มีผู้ป่วย ก็ไม่ต้องเดินทางไปไหน เพราะดีที่สุดคือไม่ต้องเดินทางไปที่ไหน เพราะโรคนี้ไปกับคน ดังนั้น เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราต้องแสดงความมั่นใจว่าว่าวิธีการเฝ้าระวัง คัดกรองหาผู้ป่วย และสอบสวนโรค ทำได้เข้มแข็งขนาดไหน หากทำได้เข้มแข็งก็ไม่ต้องกลัว

@ ศบค.เห็นชอบ เริ่มโครงการทันที

นายอนุทินยังกล่าวว่า โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งแบ่งเป็น 3 โครงการคือ กำลังใจ เราไปเที่ยวกัน และเที่ยวปันสุข ผ่านการพิจารณาของ ครม.ในหลักการแล้วโดย เลขาฯ สภาพัฒน์ฯ เป็นผู้รายงาน ครม. จากนี้ต้องไปหาวิธีการว่าทำอย่างไรให้เกิดความโปร่งใส เงินทุกบาททุกสตางค์คุ้มค่ากับที่ลงไป หากตกลงกันได้ และได้รับความเห็นชอบจากนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค.ก็มีผลได้เลย เพราะมาตรการเหล่านี้เป็นเรื่องของ ศบค.ที่มีความเป็นเอกเทศ ไม่เกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน