ผู้ติดเชื้อ “โควิด” รายใหม่เพิ่ม 4 ราย กลับจากสหรัฐ-ไต้หวัน รวมติดเชื้อสะสม 3,295 ราย

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า วันนี้สถานการณ์ในประเทศไทย พบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย มาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) ทุกราย ขณะนี้รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,295 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ 358 ราย ยังไม่พบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม ล่าสุดตัวเลขผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 58 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายสะสมที่ 3,111 ราย และยังอยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) 126 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ คัดกรองที่ด่านควบคุมโรค และเข้าสถานที่กักกันของรัฐ จำนวน 4 ราย ได้แก่

1.สหรัฐอเมริกา 3 ราย รายแรก เป็นนักท่องเที่ยวหญิงไทย อายุ 44 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐที่ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 25 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการอีก 2 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 25 ปี และนักศึกษาหญิงไทย อายุ 21 ปี เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ผ่านการคัดกรอง ที่ด่านควบคุมโรค พบว่ามีอาการเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค (PUI) เป็นผู้ป่วยชาย อาการไข้และเจ็บคอ และผู้ป่วยหญิง มีอาการไข้และจมูกไม่ได้กลิ่น จึงตรวจหาเชื้อใหม่ในวันที่ 25 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ

2.ไต้หวัน 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานโรงงาน เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 21 กรกภาคม เข้าพักในสถานกักกันโรคฯ ที่กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อในวันที่ 25 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ พบว่ามีอาการถ่ายเหลว


“แม้เป็นวันหยุด แต่งาน ศบค.ยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีน ดังนั้น หน้ากากอนามัยยังเป็นเรื่องจำเป็น และสำคัญ เพราะชัดเจนแล้วว่าสามารถป้องกันโรคและการติดเชื้อโควิด-19 ได้ โดยเฉพาะวันหยุดที่ทุกคนออกไปเที่ยว ทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว