งดรื่นเริง-ดนตรีตลอดตุลา มหาดไทยสั่งทุกจังหวัด จัดพิธีทำบุญ 1 ปีสวรรคต

พสกนิกรเข้าแถวรอเข้ากราบพระบรมศพยาวเหยียดทั้งสองจุดคัดกรอง ท้ายแถวสุดลูกหูลูกตา หลังสำนักพระราชวังเปิดเป็นวันสุดท้าย กำหนดซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในสถานที่จริงครั้งแรก พร้อมปิดถนน 18 สายโดยรอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวงจนกว่าจะสิ้นสุด ด้านมหาดไทยแจ้งสถานบันเทิง-สถานบริการให้งดและลดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสนุกสนานตลอดทั้งเดือนตุลาคม เพื่อน้อมถวายความอาลัย รัฐบาลเปิดทำเนียบทำบุญถวายพระราชกุศลเนื่องในวันในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคตครบ 1 ปีวันที่ 13 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบสักการะ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในเวลา 24.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค. เป็นวันสุดท้าย นับเป็นจำนวน 337 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งกลางวัน และกลางคืน มีพสกนิกรสวมชุดดำสุภาพ ต่างพร้อมใจเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ อย่างไม่ขาดสายในทุกช่วงของเวลา ท่ามกลางสภาพอากาศอบอ้าว บางช่วงท้องฟ้ามึดครึ้ม สลับสายฝนโปรยปรายตลอดทั้งวัน โดยประชาชนได้เตรียมร่มและเสื้อกันฝน ด้วยความตั้งใจที่จะรอเพื่อให้ได้เข้ากราบใน วันสุดท้ายในวันเดียวกันนี้ พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่จิตอาสาได้นำพัดมาแจกจ่ายให้ พัดคลายร้อน ระหว่างรอเข้ากราบพระบรมศพด้วย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เปิดจุดคัดกรองเพียง 2 จุด ได้แก่ จุดคัดกรองโรงแรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีประชาชนเข้าแถวยาวไปตลอดเส้นถนนราชดำเนินในล้นไปถนนราชดำเนินกลาง บางช่วงไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่จุดคัดกรองด้านวงเวียนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน มีแถวประชาชนต่อคิวยาวตลอดเส้นถนนสนามไชย ล้นออกไปถนนเจริญกรุงวนออกไปยังคลองคูเมือง ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางรอคอยมีจิตอาสาคอยให้บริการน้ำดื่ม เก็บขยะ และแจกจ่ายอาหาร พร้อม รถสุขาเคลื่อนที่คอยให้บริการ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดช่วงเวลาเจ้าหน้าที่ได้จัดแถวให้ประชาชนได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ ผ่านทางประตูวิเศษไชยศรี ถ.หน้าพระลาน ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของพระบรมมหาราชวัง และเข้าไปยังประตูพิมานไชยศรี ซึ่งเป็นประตูชั้นใน ก่อนเลี้ยวขวาผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขณะที่สำนักพระราชวังได้ปิดการเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดารามสำหรับ นักท่องเที่ยวและประชาชน ก่อนจะเปิด อีกครั้งในวันที่ 30 ต.ค.

ด้านสำนักพระราชวัง ได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมากราบสักการะ พระ บรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. จนถึงเวลา 24.00 น. ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 96,150 คน รวม 336 วัน มี 12,628,642 คน และถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 6,437,999.25 บาท รวม 336 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 882,528,282.01 บาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ยังเข้าแถวรอกราบ สักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นจำนวนมากสามารถทยอยเข้ากราบสักการะพระบรมศพ จนหมดชุดสุดท้าย ของวันที่ 4 ต.ค. ในเวลา 03.40 น.ของวันที่ 5 ต.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณกำแพง วัง ฝั่งถนนมหาราช ซึ่งตรงกับด้านข้างของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีประชาชนนำ ช่อดอกไม้ และพวงมาลัย พร้อมจัดดอก ดาวเรืองเป็นเลขเก้าไทยมาวางบนสนามหญ้า พร้อมก้มกราบเพื่อแสดงความอาลัยเป็น ครั้งสุดท้ายในวันนี้

สำหรับการซ้อมย่อย ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 7 ต.ค.โดย จะเป็นการซ้อมในเวลาและสถานที่จริง เริ่มซ้อมขบวน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. และจะปิดถนนชั้นใน 18 เส้นทาง ประกอบด้วย ถนนราชดำเนิน ถนนสนามไชย ถนนหลักเมือง ถนนกัลยาณไมตรี ถนนเจริญกรุง ถนนพิพิธ ถนนท้ายวัง ถนนมหาราชข้างพระบรมมหาราชวัง ถนนมหาราชข้างวัดมหาธาตุ ถนนเศรษฐการ ถนนพระจันทร์ ถนนเชตุพน ถนนพระยาเพชร ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนราชินี ถนนพระอาทิตย์ และซอยสราญรมย์ โดยจะปิดถนนตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 6 ต.ค.จนเสร็จสิ้นการซ้อมริ้วขบวน

ผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกว่า สำหรับการ ซักซ้อมส่วนริ้วขบวนที่ 1 จะเริ่มซ้อมในเวลาประมาณ 08.00 น. จนเสร็จสิ้นในเวลา 13.00 น. โดยในวันดังกล่าวจะซักซ้อมย่อย ในริ้วขบวนที่ 1 ถึงริ้วขบวนที่ 3 บริเวณพื้นที่จริง สำหรับประชาชนที่จะเข้าชมการซ้อม ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ กรุณาแต่งกายชุดสุภาพสีดำ และนำบัตรประชาชนมาแสดงที่จุดคัดกรอง เพื่อเข้าพื้นที่ท้องสนามหลวง

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องแต่งกายจิตอาสาเฉพาะกิจงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จำนวน 117 นาย ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้ง ผบ.ทบ. รองผบ.ทบ. ผู้ช่วยผบ.ทบ. และเสธ.ทบ. รวมทั้งนายทหารชั้นยศนายพลที่รับราชการ และนายทหารชั้นนายพลที่เกษียณอายุราชแล้ว 28 นาย โดยสิ่งของพระราชทาน ประกอบด้วย เสื้อยืดคอโปโลสีดำ หมวกแก๊ป ผ้าพันคอ

ที่กระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) ได้แจ้งการดำเนินการเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานพระบรมศพ ตามที่ครม.มีมติ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับแนวทางการปฏิบัติของสถานบริการหรือสถานประกอบการ ที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการในช่วงเดือน ต.ค. ซึ่งจะจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

นายฉัตรชัยกล่าวว่าเพื่อให้การปฏิบัติ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครอง จึงแจ้งให้ทุกจังหวัดขอความร่วมมือผู้ประกอบการสถานบริการ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ งดหรือลดกิจกรรมบันเทิง เช่น การแสดงดนตรีหรือการเต้นรำในช่วงเดือนต.ค.ตามช่วงเวลาและรูปแบบที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน กรณีการจัดกิจกรรมงานรื่นเริงต่างๆ ขอให้ชะลอไว้ก่อน และสำหรับการ จัดงานหรือกิจกรรมที่ได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว เช่น งานมงคลสมรสยังสามารถจัดได้ตามปกติ โดยขอให้จัดในสถานที่ปิด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางพัชราภรณ์ อินทรีย์ยงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมแนวทางปฏิบัติของ ส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้อง ในการร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นางพัชราภรณ์เปิดเผยว่า สำนักพระราชวังมีหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างวันที่ 13-14 ต.ค. ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีวันที่ 13 ต.ค. เวลา 17.00 น. และวันที่ 14 ต.ค.เวลา 10.30 น. ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

โอกาสนี้ พร้อมกับเชิญชวนร่วมรับชม การถ่ายทอดสดพระราชพิธีผ่านทางโทรทัศน์ รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และในเวลา 17.00 น. จะมีการสวดพระพุทธมนต์และสวดคาถาถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร “ปรมินทรมหาภูมิพละอตุลยะเตชะมหาราชัสสะ ปัตติทานคาถา” ซึ่งแต่งและแปลโดยสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

ขณะที่รัฐบาลจะจัดพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ เวลา 07.00 น.โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรีและ คู่สมรส ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 89 รูป บริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จึงขอเชิญชวนส่วนราชการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัด ภาคเอกชน และประชาชนทั่ว ทั้งประเทศ ร่วมจัดพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลโดยยึดตามแนวทางที่รัฐบาลปฏิบัติ ภายในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน

ทั้งนี้ ได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเผยแพร่บทสวดมนต์ (ปรมินทร มหาภูมิพละ อดุลยะเตชะ มหาราชัสสะ ปัตติทานคาถา) ให้ประชาชนดาวน์โหลด และสวดถวายเป็นพระราชกุศลในช่วงเย็นวันเดียวกัน เพื่อสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลได้โดยพร้อมเพรียงกัน

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์