เปิดผลสำรวจ สวนดุสิตโพล คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับนักศึกษา

สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมของนักศึกษา และข้อเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ-ยุบสภา จากกลุ่มตัวอย่างจำนวนเกือบ 2 แสนคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) สวนดุสิตโพล ได้รายงานผลสำรวจความเห็นของประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับ“การชุมนุมประท้วง” ของนักศึกษา ณ วันนี้” ซึ่งมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามออนไลน์ จำนวนทั้งสิ้น 197,029 คน ระหว่างวันที่ 16-21 สิงหาคม 2563

ผลการสำรวจดังกล่าว จัดทำขึ้นเพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ต่อ 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่ม “ประชาชนปลดแอก” ซึ่งจัดการชุนุมครั้งใหญ่ขึ้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา โดย 3 ข้อเรียกร้องนั้น ได้แก่ หยุดคุกคามประชาชน แก้ไขรัฐธรรมนูญ และยุบสภา

ผลการสำรวจพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนต่อการประท้วงดังกล่าว ส่วนใหญ่มองว่า “เป็นการเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตย (59.11%) มากเป็นอันดับ 1 ตามด้วยความเห็นอื่นๆ เช่น ต้องไม่จาบจ้วงสถาบัน (41.76%) ห่วงเรื่องความปลอดภัย/อาจมีผู้ไม่หวังดี (40.41%) ผู้เกี่ยวข้องควรรับฟัง (40.10%) เป็นต้น

สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเรียกร้องให้ “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นด้วย (62.84%) โดยเหตุผลที่พบมาก ได้แก่ เพราะรัฐธรรมนูญไม่เป็นกลาง เป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ไม่เป็นประชาธิปไตย, อยากให้แก้ไขในหมวดที่มาของ ส.ว., ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นต้น ขณะที่มี 24.85% ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้อง และ 12.31% ไม่แสดงความคิดเห็น

ประชาชนส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถาม (53.88%) ยังเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้ “พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาหรือลาออก” เนื่องจาก “บริหารงานล้มเหลว, ประเทศชาติไม่เจริญก้าวหน้า, ไม่มีผลงาน ไม่มีความรู้ความสามารถมากพอในการบริหาร , นายกฯ มาจากการการสืบทอดอำนาจ เป็นต้น”

ขณะที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยมีจำนวน 38.43% ซึ่งให้ความเห็นว่า เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ ตั้งใจทำงาน มีความจงรักภักดี เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี , ยังมองไม่เห็นใครที่มีความเหมาะสมเข้ามาแทน เป็นต้น

ประชาชนกว่า 59.47% ยังเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้ “หยุดคุกคามประชาชน” โดยเหตุผลที่พบมากได้แก่ “การแสดงออกทางความคิดเห็นของประชาชน ควรเป็นไปอย่างอิสระ ไม่โดนคุกคาม เป็นการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขต เผด็จการ , เป็นสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน” เป็นต้น

นอกจากนี้ 53.71% ยังแสดงความเห็นว่า “เห็นด้วย” กับการชุมนุมประท้วงของนักศึกษา

ผลสำรวจ การชุมนุมนักศึกษา

นักวิจัยอ่านผลสำรวจ

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากผลโพลจะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างมีมุมมองต่อการชุมนุมประท้วงว่าเป็นการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย เป็นการชุมนุมของคนรุ่นใหม่ที่กล้าแสดงออก ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น แต่การชุมนุมนั้นก็ต้องเคารพในสิทธิของผู้อื่น มีความเป็นสุภาพชน ไม่จาบจ้วงสถาบันฯ ทั้งนี้ยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะอาจมีผู้ไม่หวังดี และในภาพรวมกลุ่มตัวอย่างเห็นด้วยกับการเรียกร้องชุมนุม 53.71% และไม่เห็นด้วย 41.17%

ด้าน รศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์ คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลการสำรวจของสวนดุสิตโพลต่อกรณีการชุมนุมประท้วงของนักศึกษาในครั้งนี้ มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน

รศ.ดร.ธนภัทร กล่าวว่า ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากรณีดังกล่าวเป็นผลิตผลทางรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตยโดยแท้ ที่รับรองสิทธิ เสรีภาพการชุมนุม และการประท้วงของประชาชนหรือนักศึกษา ที่มีต่อรัฐบาลหรือสถาบันทางการเมืองอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิเสรีภาพดังกล่าว ก็จำต้องสำเหนียกด้วยว่าไม่ควรให้เกินเลยกรอบของกฎหมายบ้านเมือง

ในขณะที่ผลการสำรวจส่วนใหญ่ต่อข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นประเด็นที่น่าสนใจ และรัฐบาลจึงควรใช้โอกาสนี้ทำสัญญาประชาคมและกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ล่าช้าหรือไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาล จะยิ่งทำให้เกิดความเร่งเร้า และเกิดข้อเรียกร้องให้รัฐบาลต้องยุบสภาหรือลาออก หรืออาจจะมีการออกมาขับไล่รัฐบาลเหมือนดั่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็เป็นได้

ศ.ดร.ธนภัทร มองว่า รัฐบาลควรรับฟังข้อเรียกร้องต่างๆผ่านผลการสำรวจนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการคิด วิเคราะห์ และนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อแก้ไขสถานการณ์มิให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้