พ.ต.อ.พา “ยิ่งลักษณ์”หนี รอดอาญา ม.157 ผลดีเอ็นเอในคัมรีไม่ยืนยัน ไร้หลักฐานมัด

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ท่าอากาศยานกองทัพอากาศ ดอนเมือง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องนำพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวหลบหนีว่า ล่าสุดได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ถึงผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌข 5323 กรุงเทพมหานคร ที่ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รอง ผบก.น.5) ช่วยราชการ ศปก.น.5 ให้การว่า ใช้เป็นพาหนะพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเลขาส่วนตัวหลบหนีจาก กทม.ไปยัง จ.สระแก้ว ก่อนปรากฏข้อมูลว่าเดินทางไปประเทศอังกฤษ เทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เก็บได้จากของใช้ส่วนตัวแล้วพบว่า ไม่สามารถยืนยันผลดีเอ็นเอได้ เพราะดีเอ็นเอที่พบในรถยนต์คัมรีนั้นมีดีเอ็นเอปนเปื้อนจำนวนมาก จนไม่สามารถเทียบเคียงกับตัวอย่างดีเอ็นเอของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ ซึ่งสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ตร.จะทำรายงานอย่างเป็นทางการเสนอมาที่ตนอีกครั้งก่อนพิจารณาทางคดีต่อไป

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ในเบื้องต้นเมื่อไม่มีผลดีเอ็นเอที่เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ว่ามีการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนี มีเพียงคำให้การเพียงอย่างเดียว จึงไม่สามารถดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าหน้าที่รัฐประพฤติมิชอบได้ ในส่วนนี้จึงจบไปไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาหรือขยายผลต่อได้ แต่ในส่วนการดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ และตำรวจอีก 2 นายที่แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วในความผิดเกี่ยวกับรถ ทั้ง พ.ร.บ.ศุลกากรฯ และการปลอมเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ก็ดำเนินต่อไปตามพยานหลักฐาน ตามขั้นตอนของกฎหมาย เป็นโทษที่หนักพอสมควรอยู่แล้ว ส่วนประเด็นอื่นๆ อาทิ รถคันอื่นๆ บุคคลอื่นๆ ก็กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่

 

ที่มา มติชนออนไลน์