เตือนปชช. 4 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยาขนของขึ้นที่สูง พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด

เขื่อนเจ้าพระยา
แฟ้มภาพ

วันที่ 15 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนักทางตอนเหนือของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีมวลน้ำไหลหลากเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดที่จุดวัดน้ำหน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ วัดได้ 1,168 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาเช้าวันนี้ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนจาก 850 ลูกบาศเมตรต่อวินาที ขึ้นเป็น 1,250 ลูกบาก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นอีก 53 ซ.ม. โดยวัดได้ 12.83 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ลุ่มต่ำใน อ.สรรพยาระดับน้ำเริ่มเข้าท่วมใต้ถุนบ้านสูงขึ้น ขณะที่ด้านเหนือเขื่อนระดับน้ำยังทรงตัวอยู่ที่16.66 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท กล่าวว่า จากการปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นไปมากกว่า 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในวันนี้ จะทำให้ระดับน้ำตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับที่สูงขึ้นอีก 50-80 ซ.ม. ดังนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง โดยเฉพาะบริเวณตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล และตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาควรเก็บของขึ้นที่สูง และติดตามประกาศสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นไปจนถึง 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรองรับปริมาณน้ำเหนือที่คาดว่าจะมีปริมาณไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาสูงที่สุด ในวันที่ 19 กรกฎาคมในอัตรา2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์