“สะสมทรัพย์-วงษ์พาณิชย์” ทึ้ง สัมปทานโรงขยะ 3.2 หมื่นล้าน

ขยะ
ภาพโดย andre_berlin จาก Pixabay

กทม.ทุ่ม 3.2 หมื่นล้าน กำจัดขยะท่วมกรุง เปลี่ยนเทคโนโลยี “ฝังกลบ” สู่ “เตาเผาไฟฟ้า” แจกสัมปทาน 3 แห่ง 20 ปี “หนองแขม-อ่อนนุช-สายไหม” เสร็จปี”67 เหลือฝังกลบ 30% “กลุ่มสะสมทรัพย์” คว้างานใหญ่ สร้างโรงขยะนครปฐม “สยามรับเบอร์” กลุ่มวงษ์พาณิชย์ เจ้าตลาดรีไซเคิล ซิวงาน 4.7 พันล้าน

แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ปัจจุบัน กทม.จัดการขยะมูลฝอยที่เก็บขนได้ 10,700 ตัน/วัน ในศูนย์จำกัดมูลฝอยหนองแขม อ่อนนุชและสายไหม ด้วย 3 ระบบคือ ฝังกลบ คัดแยกระบบใหม่ใช้วิธีผสมผสานทั้งรีไซเคิล การแปรรูปเป็นปุ๋ยหมักและระบบเตาเผาที่ใช้เทคโนโลยีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานไฟฟ้า

โดยตั้งเป้าลดฝังกลบจาก 80% ให้เหลือ 30% ในปี 2567 ตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดขยะมูลฝอยเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในบริเวณใกล้เคียง พร้อมส่งเสริมการแปรรูปผลิตพลังงานโดยให้ภาคเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจร่วมลงทุนตามแผน กทม.จะใช้งบประมาณ 32,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้เอกชนดำเนินการแต่ละระบบแล้ว ทั้งจ้างระยะสั้นและให้สัมปทาน 20 ปี ในสัญญาระยะสั้น 4 ปี จะจ้างเอกชนกำจัดมูลฝอยจากโรงงานกำจัดมูลฝอยไปทำลายโดยวิธีฝังกลบในระหว่างรอเตาเผามูลฝอยเสร็จ

โดยศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขมจ้างบจ.กลุ่ม 79 (กลุ่มตระกูลสะสมทรัพย์)วงเงิน 3,035 ล้านบาท ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหมจ้าง บจ.วัสดุภัณฑ์ธุรกิจ 1,044 บ้านบาท ทั้ง 2 แห่งจะขนไปฝังกลบที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ส่วนศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช จ้าง บจ.ไพโรจน์สมพงษ์พาณิชย์ ไปฝังกลบที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา วงเงิน 1,045.36 ล้านบาท สัญญา 20 ปี จะจ้างเอกชนดำเนินการกำจัดมูลฝอยจากสถานีขนถ่ายมูลฝอยระบบใหม่และนำไปกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม

มี บจ.สยามรับเบอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับวงษ์พาณิชย์ เป็นผู้ดำเนินการ วงเงิน 4,741.35 ล้านบาท และศูนย์มูลฝอยหนองแขมมี บจ.กลุ่ม 79 ดำเนินการ วงเงิน 4,737.7 ล้านบาท โดยที่หนองแขมนั้นเอกชนจะสร้างโรงคัดแยกขยะที่ อ.กำแพงแสน ขนาดกว่า 1,000 ตัน/วันเพื่อรับขยะจากหนองแขมไปกำจัดด้วยระบบใหม่

“การจ้าง 20 ปี คล้าย PPP เอกชนจัดหาที่ดิน ลงทุนก่อสร้าง รับสัมปทานบริหารโครงการ โดย กทม.จ่ายค่าตอบแทนให้ ซึ่งช่วยลดการฝังกลบแบบเก่า ทำให้เอกชนที่จ้างขนขยะอย่างกลุ่มสะสมทรัพย์ต้องลงทุนเพิ่ม เพื่อรับการเปลี่ยนแปลง แต่ก็คุ้ม” แหล่งข่าวกล่าว

นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัด กทม.เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ”ว่าได้ดำเนินการโครงการกำจัดขยะมูลฝอยด้วยระบบเตาเผา เป็นเทคโนโลยีใหม่ในรูปแบบ Build-Operate-Transfer (BOT) ซึ่ง กทม.ให้สิทธิผู้สนใจลงทุนพัฒนาโครงการ ระยะเวลา 20 ปี นับจากวันก่อสร้าง และโอนกรรมสิทธิ์ให้กทม.หลังสิ้นสุดสัญญา 3 แห่ง เป็นการขยายการลงทุนในพื้นที่เดิม ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน/วัน

ขณะนี้ได้เอกชนแล้ว 2 แห่ง โดย กทม.จ่ายค่าตอบแทนให้ 20 ปี แห่งละ 6,000 ล้านบาท ในอัตราตันละ 789 บาท รวมเป็นเงิน 12,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม 30 ไร่

มี บจ. ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) เป็นผู้ลงทุน 3,000-3,500 ล้านบาท และศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช 30 ไร่ มี บจ.นิวสกายเอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) เป็นผู้ลงทุน 3,000-3,500 ล้านบาท

“เซ็นสัญญาแล้วเมื่อ ธ.ค.2562 รอเพียงใบอนุญาตก่อสร้าง เพราะคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือ กกพ.ยังไม่ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้า คาดว่าทั้ง 2 แห่ง เริ่มสร้างกลางปีหน้าใช้เวลา 3 ปี เสร็จปี 2567 ซึ่งช่วยลดฝังกลบจาก 10,700 ตัน/วัน เหลือ 30% หลังเปลี่ยนเป็นการเผา โดยแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าหรือทำปุ๋ย”

นายชาตรี กล่าวว่า กทม.ยังมีแผนก่อสร้างเตาเผาที่ศูนย์จำกัดมูลฝอยสายไหม โดยเปลี่ยนจากฝังกลบเป็นเผาแทน และให้เอกชนลงทุน 3,000-3,500 ล้านบาท พร้อมบริหารโครงการ 20 ปี วงเงิน 6,000 ล้านบาท เหมือนที่หนองแขมและอ่อนนุช ขณะนี้อยู่ระหว่างรอกระทรวงมหาดไทยอนุมัติ คาดใช้งบประมาณปี 2565 แล้วเสร็จปี 2568-2569

ทั้งนี้ กทม.มีศูนย์รับขยะ 3 แห่งคือ 1.อ่อนนุช รับได้ 4,000 ตันต่อวัน แยกไปทำปุ๋ย 600 ตันต่อวัน อีก 3,400 ตันนำไปฝังกลบ 2.หนองแขม รับได้4,000 ตันต่อวัน แยกไปเผา 500 ตัน อีก3,500 ตัน นำไปฝังกลบ และ 3.สายไหม รับได้ 2,500 ตันต่อวัน จะฝังกลบทั้งหมด อีก 1 แห่ง ที่หนองแขม เป็นโรงเตาเผาขยะไฟฟ้า รับได้ 500 ตันต่อวัน