“ประยุทธ์” เปิดเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ นั่งฟรี 6 เดือน

“ประยุทธ์” ประเดิมนั่งเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ กทม.ใจป้ำฟรีก่อน 6 เดือน ค่อยเก็บ 10 บาทตลอดสาย นายกฯ ชมเปาะให้แท็กทีม “คมนาคม” ศึกษาเรือคลองแสนแสบ-เจ้าพระยาต่อ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 พ.ย. 2563 ที่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดบริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) เส้นทางคลองผดุงกรุงเกษมอย่างเต็มรูปแบบ ช่วงท่าเรือสถานีหัวลำโพง – ท่าเรือตลาดเทวราชกุญชร ระยะทาง 5 กม. ซึ่งในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมทดลองโดยสารเรือไฟฟ้าดังกล่าวด้วย

ประยุทธ์ตัดริบบิ้น-ล่องเรือไฟฟ้าเส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานเปิดเดินเรือโดยสารไฟฟ้า เส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม จากท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง-ท่าเรือตลาดเทวราช ฟรีค่าบริการ 6 เดือนแรก ต่อไป 10 บาทตลอดสาย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดบริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) เส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม จากท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ถึงท่าเรือตลาดเทวราช ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือทางน้ำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ณ ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง

พล.อ.ประยุทธ์รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมโครงการบริหารจัดการเดินเรือไฟฟ้า คลองผดุงกรุงเกษม บริเวณสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) โดยดันคันโยกเพื่อเปิดพิธีอย่างเป็นทางการ จากนั้น ลงเรือไฟฟ้าจากท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพงไปยัง ท่าเรือตลาดเทวราช ชมการสาธิตการกลับลำเรือในพื้นที่จำกัด 360 องศา พร้อมพบปะทักทายประชาชนโดยรอบบริเวณท่าเทียบเรือตลาดเทวราช

นายอนุชากล่าวว่า นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลเห็นความสำคัญดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะมลพิษทางอากาศ ที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรม การจราจร การเผาไหม้ ความร่วมมือจากประชาชนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อร่วมกันเดินไปข้างหน้า เตรียมเข้าสู่ระบบไฟฟ้าในอนาคต ควบคู่ไปกับการพัฒนาในด้านอื่น ๆ เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน เกิดการดูแลอย่างทั่วถึง

สำหรับโครงการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษมเป็นโครงข่ายรองในการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนเขตกรุงเทพฯชั้นในที่มีความแออัดของการจราจรสูง ซึ่งกรุงเทพมหานคร มีการเดินเรือมาแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อทดสอบความหนาแน่นของผู้โดยสาร ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก จึงได้ขยายผลโดยการนำเรือพลังงานไฟฟ้า 100% (Elecric Vehice : EV) เข้ามาเพิ่ม อีก 7 ลำ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นการให้บริการเรือโดยสารไฟฟ้าสายแรกของประเทศ โดยมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 5 กม. และ 11 ท่าเรือ นอกจากนี้คลองผดุงกรุงเกษมยังเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้าได้ถึง 3 สาย ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สีม่วง และสายสีส้ม

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้เรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษมได้ฤกษ์เปิดเดินเรือเต็มรูปแบบแล้ว หากย้อนหลังไปเมื่อปี 2561 ท่านนายกรัฐมนตรี ได้มีดำริให้ทางกรุงเทพมหานครจัดการเดินเรือในคลองผดุงกรุงเกษมเพื่อให้บริการกับพี่น้องประชาชน เป็นทางเลือกการเดินทางและเชื่อมต่อโครงข่ายการจราจรขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมตามนโยบาย “ล้อ ราง เรือ” กรุงเทพมหานครได้ทดลองเดินและปรับปรุงท่าเรือทั้ง 11 ท่าระยะทาง 5 กม. ใหม่ทั้งหมดพร้อมต่อเรือไฟฟ้า

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเรือไฟฟ้าทั้ง 8 ลำจะให้บริการตั้งแต่ 06.00 – 19.00 น. ทุกวัน ช่วงเร่งด่วน 06.00 – 09.00 น. และ 15.00 – 19.00 น. เรือจะมาทุก 15 นาที สำหรับ 09.00 – 15.00 น. เรือจะมาทุก 30 นาที ค่าบริการจากวันนี้ไปอีก 6 เดือน ฟรี”

นายสกลธีกล่าวว่า หลังจากนั้นจะเก็บ 10 บาท ตลอดสาย เส้นคลองผดุงกรุงเกษมนี้ไม่เพียงช่วยเป็นทางเลือกด้านการจราจรเท่านั้น แต่ยังเป็นเรือเส้นทางท่องเที่ยวผ่านสถานที่สำคัญมากมาย แดดร่มลมตกลองมานั่งเล่นกัน

นั่งฟรี 6 เดือน

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังร่วมทดสอบเดินเรือว่า เรือโดยสารคลองผดุงกรุงเกษม ให้บริการเดินเรือทุกวัน วันละ 39 เที่ยว เรือออกทุก 15 นาที ตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น. ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินเรือตามความเหมาะสมของสถานการณ์ โดยขณะนี้ยังให้บริการฟรี ไม่เก็บค่าโดยสาร เป็นระยะเวลา 6 เดือน

จากนั้นจะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราไม่เกิน 10 บาท ตลอดสาย โดยโครงการนี้ กทม.มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือเคที เป็นผู้ดำเนินโครงการเดินเรือ และดูแลระบบการบริหารจัดการเดินเรือให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเรือคลองผดุงกรุงเกษม มีระยะทาง 5 กม. ประกอบด้วยท่าเรือจำนวน 11 ท่าเรือ ได้แก่ 1.ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง 2.ท่าเรือหัวลำโพง 3.ท่าเรือนพวงศ์ 4.ท่าเรือยศเส 5.ท่าเรือกระทรวงพลังงาน 6.ท่าเรือแยกหลานหลวง 7.ท่าเรือนครสวรรค์ 8.ท่าเรือราชดำเนินนอก 9.ท่าเรือประชาธิปไตย 10.ท่าเรือเทเวศร์ และ 11.ท่าเรือตลาดเทวราช ครอบคลุม 4 พื้นที่เขต ได้แก่ เขตพระนคร เขตดุสิต เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตปทุมวัน

คาดผู้โดยสาร 500 คน/วัน

สเปกเรือดังกล่าว รองรับผู้โดยสารได้ 30 ที่นั่ง/ลำ รวมถึงผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ได้ 1 คัน ใช้ความเร็วสูงสุดในการเดินเรืออยู่ที่ 10-15 กม./ชม. เรือสามารถกลับลำได้ 360 องศา เพื่อลดปัญหาการกลับลำเรือในคลอง ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง สามารถให้บริการได้นาน 4 ชั่วโมง และมีระบบจีพีเอสติดตามตำแหน่งเรือ และกล้องวงจรปิด คาดว่าจะมีผู้โดยสารใข้งาน 500 คน/วัน

“ท่านนายกฯมีความพึงพอใจในเรือดังกล่าวมาก จึงสั่งการให้ กทม.และกระทรวงคมนาคมศึกษาในส่วนต่อขยายเรือโดยสารคลองแสนแสบและเส้นทางอื่น ๆ ของเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในส่วนของเรือแม่น้ำเจ้าพระยา กระทรวงคมนาคมมีการกำหนดคร่าว ๆ ว่า จะออกแบบให้เป็นเรือโดยสารที่รองรับได้ 100 ที่นั่ง/ลำ”