ขนาดยักษ์ ยังต้องสวมหน้ากากอนามัย สนามบินสุวรรณภูมิไม่เว้น

ยักษ์สุวรรณภูมิ

“ขนาดยักษ์…ยังสวมเลย” เป็นแคมเปญ ที่ ทอท.ร่วมกับ สธ. ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด ติดตั้งหน้ากากอนามัยให้ยักษ์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 

วานนี้ (14 ธ.ค.63) นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นประธานในพิธีบวงสรวง ก่อนการติดตั้งหน้ากากอนามัยให้ยักษ์ ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือทอท. รณรงค์ยกระดับมาตรการสวมหน้ากากป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) “ขนาดยักษ์…ยังสวมเลย”

เพื่อให้ผู้โดยสารตระหนักถึงความสำคัญของการใส่หน้ากากอนามัยและถูกวิธี ป้องกันการติดต่อและแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของทสภ. ที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด

สำหรับการเดินทางภายในประเทศนั้น ได้มีมาตรการคัดกรองตั้งแต่ก่อนเข้าสนามบินด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน ซึ่งบางสนามบินเครื่อง จะมีโปรแกรมตรวจจับใบหน้า หากมีไข้หรือไม่สวมหน้ากากจะส่งสัญญาณเตือน มีจุดบริการล้างมือ หรือ เจลแอลกอฮอล์ผู้ที่อยู่ภายในสนามบินทุกคนต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา

นั่งเว้นระยะห่างตามจุดที่กำหนด มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้า Gate ขณะอยู่บนเครื่อง ทุกคนต้องสวมหน้ากาก หากมีอาการป่วยจะแยกไปนั่ง แถวหลังท้ายเครื่องที่จัดเตรียมไว้ และเมื่อถึงสนามบินปลายทางจะได้รับการตรวจคัดกรองก่อนออกจากสนามบิน และติดตามตัวด้วยแอปพลิเคชัน AOT Airport

ยักษ์สุวรรณภูมิ

ด้านน.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ผู้โดยสารที่ใช้บริการสนามบิน ทั้งที่สุวรรณภูมิและดอนเมืองในแต่ละวัน มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคโควิด 19 ที่ต้องเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง

ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการภายในสนามบินจึงต้องปฏิบัติตามมาตรการ ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ตั้งแต่ 1. อาคารสถานีผู้โดยสาร จัดให้มีการคัดกรองผู้โดยสาร โดยควบคุมบริเวณทางเข้าออก พร้อมลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ให้เพียงพอ มีการทำความสะอาดบริเวณสถานี และจุดสัมผัสร่วมบ่อย ๆ เช่น เคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ราวบันได เบาะนั่ง พนักพิง จัดระยะห่างระหว่างรอคิวมากกว่า 1 เมตร ทั้งบริเวณผู้โดยสารขาเข้าและผู้โดยสารขาออก

นอกจากนี้ผู้ให้บริการภายในสนามบินต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ระหว่างที่ให้บริการและ หมั่นสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ จาม ให้งดปฏิบัติงาน

ส่วนผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในสนามบิน และขณะโดยสารภายในเครื่องบินเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารบนเครื่อง โดยอาจจะนำกลับไปกินที่บ้านแทน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการไม่สวมหน้ากากขณะกินอาหารได้

“ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง เพราะหากไม่สวมหน้ากากป้องกัน จะมีความเสี่ยงในการรับเชื้อสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ แต่หากทุกคน สวมหน้ากากป้องกันจะมีความเสี่ยงเพียงแค่ 1.5 เปอร์เซ็นต”

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมกับ ทอท.รณรงค์สวมหน้ากากและยกระดับมาตรการการป้องกันโควิด 19 “ขนาดยักษ์…ยังสวมเลย”