น่าเป็นห่วง! สัตวแพทย์พบช้างจมน้ำมีอาการขาอ่อนแรง-แรงดันในช่องท้องสูง

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายสัตวแพทย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงนายสัตวแพทย์ของสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ตลอดจนควาญช้างของโรงช้างต้น ภายในศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้ร่วมกันเริ่มใช้เชือกเข้ามัดตัวช้างพลายสีดอ ซึ่งเป็นช้างป่า อายุประมาณ 15-20 ปี จาก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ที่ชาวบ้านเรียกว่าช้างพลายชมพู หรือพลายธารา หลังได้รับบาดเจ็บจากการตกน้ำป่า และได้เคลื่อนย้ายมาจาก จ.พิษณุโลก มายังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.ลำปาง เพื่อทำการรักษา โดยมาถึงเช้ามืดวันนี้

สำหรับการใช้เชือกเข้าคล้องและมัดตัวช้าง เพื่อเตรียมนำตัวช้างลงมาจากรถบรรทุกก็เป็นไปอย่างยากลำบาก โดยต้องใช้รถแบ๊กโฮดึงเชือกที่คล้องและมัดตัวช้างแล้วค่อยๆ ยกขึ้น ท่ามกลางอาการอ่อนแรงของช้างที่อ่อนล้ามาจากอาการบาดเจ็บมาตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา และหากช้างหมดแรงก็จะย่อเข่าลงทำให้ควาญช้างต้องเรียกให้ช้างลุกขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ช้างร่วมมือในการลุกขึ้นยืนในการลอดเชือกเข้าใต้ท้อง เพื่อเตรียมดึงและยกลงมา นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ต้องประสานให้รถแบ๊กโฮอีกคันให้เข้ามายังพื้นที่เพื่อเข้ามาดำเนินการยกช้างลงมาแล้วอย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 09.40 น.

ด้าน นสพ.ทวีโภค อังควานิช ผู้จัดการส่วนงานอนุรักษ์และบริบาลช้าง และสัตวแพทย์ประจำของสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า อาการของช้างล่าสุดในวันนี้ยังเหมือนเดิมที่เราเข้าไปช่วยใน จ.พิษณุโลก แต่สิ่งที่เริ่มเห็นและเป็นห่วงขณะนี้ คือ ขาหน้าเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ และเมื่อนำช้างลงมาได้แล้ว ช้างก็สามารถที่จะทอดกายพักกับทรายที่กองไว้ หรือพิงหลักมัดช้างที่มีอยู่ ส่วนอาการช่วงท้ายช้างที่พบขณะนี้น่าจะมีปัญหา โดยพบแรงดันในช่องท้องสูง ทำให้อวัยวะเพศหย่อนตกลงมา รวมถึงบริเวณทวารก็มีรอยบวม ซึ่งจะต้องหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไปว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร สำหรับอาการเบื้องต้นจากการประเมินของช้างเชือกนี้ถือว่ามีอาการที่น่าห่วงมาก

“การนำช้างมาดูแลและรักษาที่ จ.ลำปาง ถึงแม้ที่สถาบันคชบาลช้าง จ.ลำปางแห่งนี้มีความพร้อมในทุกด้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ แต่ก็ต้องมองด้วยว่าช้างพร้อมด้วยหรือไม่ในการรักษา และอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ เพราะถือว่าช้างจมอยู่ในน้ำนานถึง 48 ชม. และช้างต้องเดินจากฝั่งมาถึงรถเพื่อขนย้ายอีก 5-6 ชม. และสภาพช้างที่ต้องเดินทางมายัง จ.ลำปางอีก จึงทำให้ไม่ทราบว่าช้างมีสภาวะพร้อมมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตามจากนี้ไปทางทีมคณะสัตวแพทย์จะมีการประชุม เพื่อประเมินอาการและหาแนวทางในการรักษาช้างเชือกนี้ทันที”

 

ที่มา : มติชนออนไลน์