กทม.ปิดโรงเรียน-ศูนย์เด็กเล็ก-ให้หยุดอยู่บ้าน 12 วัน สกัดโควิดระบาด

“กทม.” สั่งปิด 12 วัน “โรงเรียน-ศูนย์เด็กเล็ก” ทั้งหมดขอความร่วมมือทำงานที่บ้าน หวังหยุดเชื้อโควิด เข้มจัดงานรื่นเริงปีใหม่เกิน 300 คน ต้องขออนุญาต ลุยตรวจแรงงานต่างด้าวโรงงานย่านบางขุนเทียน บางบอน ไซต์ก่อสร้าง เผยตรวจ 100 ตลาด ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ยังไม่ประกาศล็อกดาวน์ รอประเมินสถานการณ์วันต่อวัน

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) มีมติให้โรงเรียนในสังกัดของ กทม. 437 แห่ง และศูนย์เด็กเล็กของ กทม. อีก 292 แห่ง หยุดทำการเรียนการสอนเป็นเวลา 12 วัน นับแต่วันที่24 ธ.ค. 2563- วันที่ 3 ม.ค. 2564 เปิดเรียนวันที่ 4 ธ.ค.2564

นอกจากนี้ ยังสั่งให้ส่วนราชการที่ไม่ใช่หน่วยงานที่ต้องให้บริการประชาชนทำงานที่บ้านทั้งหมดเป็นเวลา 12 วัน เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เช่นกัน

สำหรับมาตรการดังกล่าว มาจากการหารือกับแพทย์และโรงเรียนแพทย์ใน กทม. ซึ่งจากข้อมูลระบุว่า การระบาดระลอกที่ 2 ทั่วโลก 75 ประเทศ มักจะกลับมาแพร่เชื้ออย่างรุนแรงถึง 88% ในส่วนของ กทม.มีระยะเวลาประเมิน 4 สัปดาห์ หากควบคุมได้ก็น่าจะไม่อยู่ในข่าย 88% ดังกล่าว

ส่วนมาตรการอื่น ๆ เช่น การ Lockdown, ปิดกั้นการสัญจรข้ามจังหวัด หรือการงดขายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังไม่พิจารณาต้องประเมินสถานการณ์ก่อน

“กระแสที่ ศบค.ชุดใหญ่จะใช้มาตรการ Lockdown ทั่วประเทศนั้น ต้องไปถามกับทาง ศบค.เอง เพราะในส่วนของ ศบค. กทม.ยังไม่พิจารณาถึงการใช้มาตรการเหล่านี้”

นอกจากนั้น กทม.จะเน้นย้ำในเรื่องของการจัดงานเทศกาลในช่วงปีใหม่ โดยย้ำอีกครั้งว่าในส่วนของ กทม.จะยกเลิกงานต่าง ๆ ทั้งหมด เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยงานอื่น  ๆทั้งภาครัฐและเอกชน และจะขอความร่วมมือไม่ให้มีการจัดด้วย

แต่ถ้าหากหน่วยงานต่าง ๆ ยังประสงค์ที่จะจัดงานอยู่ ก็ต้องประเมินด้วยว่า งานที่จะจัดจะมีจำนวนคนมาร่วมงานเกิน 300 คนหรือไม่ หากประเมินแล้วมีคนเข้าไปในงานเกิน จะต้องทำแผนและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเสนอมาที่สำนักอนามัย กทม.ก่อน

หากสำนักอนามัยเห็นว่า แผนและมาตรการที่นำเสนอไม่สามารถควบคุมโรคได้ก็จะไม่ให้จัดงานโดยเด็ดขาด ส่วนงานที่มีคนน้อยกว่า 300 คน ให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

โฆษก กทม. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ กทม.ได้ลงพื้นที่ตรวจตลาดไปแล้ว 100 กว่าแห่งจากเป้าหมาย 472 ตลาด ซึ่งยังไม่พบผู้ติดเชื้อ และจากเปลี่ยนวิธีตรวจคัดกรองโรคจากแบบป้ายเนื้อเยื่อหลังโพรงจมูก เป็นเก็บตัวอย่างจากน้ำลาย โดยตรวจทีละ 5 คน หากพบผู้ติดเชื้อจึงค่อยตรวจแบบป้ายเนื้อเยื่อหลังโพรงจมูกต่อไป และจะทำการตรวจคัดกรองในพื้นที่ไซต์ก่อสร้างทั่ว กทม. และโรงงานแถบเขตบางขุนเทียนและบางบอนเพิ่มด้วย