แถลงการณ์ สยามไบโอไซเอนซ์ แจงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ในไทย

วัคซีน-โควิด-19

บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ออกแถลงการณ์ชี้แจงโครงการผลิตวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แจงบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จากสหราชอาณาจักร เป็นผู้เลือก เพราะโรงงานมีมาตราฐานสากล เป็นฐานการผลิตให้กับภูมิภาคอาเซียน

วันนี้ (25 ม.ค.) นวลพรรณ ล่ำซำ ในนามของ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ได้ชี้แจงสถานะของ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด โดยระบุว่า

บริษัทเป็นบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นผู้ผลิตยาชีววัตถุแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2552 ตามพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ที่ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ผลิตได้แก่ยารักษาโรคชีววัตถุอาทิยาเพิ่มเม็ดเลือดแดงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการไตวายเรื้อรังและยาเพิ่มเม็ดเลือดขาว ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบัดโดยยาทั้ง 2 ตัวผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ชั้นสูงสามารถบำบัดรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ประเทศไทย

ลดการพึ่งพายาจากต่างชาติช่วยสร้างความมั่นคงให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืนและด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก ของโรงงาน บริษัทฯจึงได้รับการรับรองมาตรฐานสากล PIC/S GMP, ISO9001,ISO17025 และ ISO13485 อีกทั้งได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตยาและชุดตรวจโรคให้แก่องค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ​ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563ที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ไวรัส โควิด 19

บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัดได้ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การ แพทย์กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาและผลิต ชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19แบบ RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีตรวจวินิจฉัยโรคตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO)และได้มอบให้หน่วยงานราชการใช้ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยในประเทศมากกว่า 100,000 ชุด

ก้าวสำคัญต่อมาคือ การผลิตวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และบริษัทแอสตร้าเซเนก้าผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำของโลก ในเดือนตุลาคม 2563 บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ , บริษัท เอสซีจี, แอสตร้าเซนเนก้า และกระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในความร่วมมือเพื่อที่จะให้วัคซีนนี้ ได้มีใช้อย่างแพร่หลายในภูมิภาคอาเซียนจากหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว

ได้นำไปสู่สัญญารับจ้างผลิตระหว่างแอสตร้าเซเนก้า และสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งสัญญานี้แสดงให้เห็นว่าสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นบริษัทที่มีความาสามารถทางเทคโนโลยีชั้นสูงสามารถดำเนินการผลิตได้อย่างมีคุณภาพและมาตรฐานสากล จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีของแอสตร้าเซเนก้าส่งผลให้สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายการผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า ที่มีมากกว่า 20 แห่งทั่วโลก

สำหรับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ โควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า ใช้เทคโนโลยีในการผลิตใกล้เคียงกับการผลิตยาชีววัตถุจากเซลล์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งสยามไบโอไซเอนซ์มีประสบการณ์ในการผลิตยา ชีววัตถุด้วยเทคโนโลยีนี้และมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดแล้วทั้งในประเทศ และส่งออก โรงงานของสยามไบโอไซเอนซ์ ได้การรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล มีศักยภาพที่จะรองรับการผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าได้ทุกขั้นตอน และเป็นโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสามารถรองรับการขยายกำลังการผลิตได้ในอนาคต

สยามไบโอไซเอนซ์ จึงเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสุ้กับการระบาดของโควิด-19 โดยไบโอไวเอนซ์ได้ดำเนินการผลิตวัคซีนโดยยึดนโยบายไม่กำไร ไม่ขาดทุน หรือ no profit no loss ในช่วงที่มีการระบาดนี้ ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกันกับของแอสตร้าเซนเนก้า