ตำรวจแต่งงานซ้อน โฆษก ตร.ชี้มีความผิดทางวินัย ขัง 30 วัน

ตำรวจแต่งงานซ้อน

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยโทษทางวินัย ขัง 30 วัน กรณีตำรวจจดทะเบียนสมรสซ้อน

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีในโลกออนไลน์มีการส่งต่อคลิปงานแต่งของตำรวจรายหนึ่ง ที่มีหญิงสาวผู้เป็นภรรยาถือทะเบียนสมรสบุกงานแต่งสามีตนเอง อีกทั้งยังมีคลิปแม่ของตำรวจที่ได้ต่อว่า และตบศรีษะลูกชายด้วยความโมโห โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

ล่าสุด มติชนรายงานว่า จากกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่เจ้าบ่าวสวมเครื่องแบบตำรวจประกอบพิธีแต่งงาน ประเด็นนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีบทลงโทษทางวินัยอยู่แล้ว กรณีมีการกล่าวหาตำรวจกระทำผิดวินัย จะมีการสืบสวนข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่ากระทำผิดจริง ก็จะถูกลงโทษทางวินัย ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษไว้แล้ว เช่น

  1. ข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับหญิงอื่นหรือชายอื่น โดยที่ตนเองมีภรรยาหรือสามีอยู่แล้ว และเกิดเรื่องเสื่อมเสีย ลงโทษกักขัง 30 วัน
  2. ได้หญิงหรือชายเป็นภรรยาหรือสามี แล้วไม่เลี้ยงดู และเกิดเรื่องเสื่อมเสียหรือเสียหาย ลงโทษกักขัง 30 วัน
  3. จดทะเบียนสมรสซ้อน ลงโทษกักขัง 30 วัน
  4. ไม่เลี้ยงดูคู่สมรสและบุตร และไม่ยกย่องฐานานุรูป ลงโทษกักขัง 30 วัน

ทั้งนี้ การประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง แต่ถ้ามีพฤติกรรมอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ทำหลายครั้ง หลอกเอาเงินทอง ใช้อำนาจหน้าที่บังคับข่มเหง กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จะเป็นการกระทำผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งมีบทลงโทษที่หนักขึ้น

ขณะที่ พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผกก.สภ.เมืองชัยนาท ผู้บังคับบัญชาของตำรวจดังกล่าว เปิดเผยว่า รับทราบเพียงข้อมูลจากสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวเท่านั้น ยังไม่มีข้อมูลอะไรมาก โดยวันนี้ (19 ก.พ.) ตำรวจหนุ่มนายที่เป็นข่าว ขอลาราชการ ไม่ได้เดินทางมาทำงาน

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ปฎิกรณ์ ระุว่า สภ.เมืองชัยนาท ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หลังจากนี้ก็จะเรียกฝ่ายชายที่เป็นตำรวจ และฝ่ายหญิงซึ่งเป็นภรรยา ที่มีทะเบียนสมรส มาสอบสวนข้อเท็จจริง ตรวจสอบเอกสาร ใบทะเบียนสมรส

อีกทั้งยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นความผิดทางวินัยต้องดูว่า เข้าระเบียบข้อไหน ถึงขั้นจะไล่ออกจากราชการหรือไม่ แต่หากถามว่าผิดหรือไม่ ตอบได้เลยว่าผิด แล้วขั้นตอนจากนั้นก็จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบต่อไป