กระทรวงสาธารณสุข เผยวัคซีนโควิด “ซิโนแวก” มีประสิทธิภาพ 83.5% จากผลการทดลองจากมหาวิทยาลัยในประเทศตุรกี
วันที่ 5 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงวัคซีน “ซิโนแวก” ที่กำลังฉีดในประเทศไทยขณะนี้ มีประสิทธิภาพถึง 83.5% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์การป้องกันโรคที่ดีมาก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
จากการเปิดเผยผลการทดลองจากมหาวิทยาลัยในประเทศตุรกี โดย เซอร์ฮัต อูนัล อาจารย์คณะโรคติดต่อและจุลชีววิทยาทางคลินิกแห่งมหาวิทยาลัยฮาเซตเตเป ระบุว่า การทดลองที่เริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายน มีประชาชนอายุ 18-59 ปี เข้าร่วมทั้งหมด 10,216 คน โดยได้ยาหลอกจำนวน 3,568 คน
ด้าน มูรัต อะโควา แพทย์ของมหววิทยาลัยฮาเซตเตเป ระบุว่า มีอาสาสมัครกลุ่มรับยาหลอก 32 คน และอาสาสมัครกลุ่มรับวัคซีนจริง 9 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด ในเวลาอย่างน้อย 14 วัน หลังรับวัคซีนโดส 2 เพื่อพิจารณาจากสัดส่วนนี้ พบว่า วัคซีนสามารถป้องกันการเกิดโรคที่แสดงอาการป่วยได้ 83.5%
นอกจากนี้ นายแพทย์จักรรัฐ เปิดเผยข้อมูลจากเอกสารกำกับยาของวัคซีน “ซิโนแวก” ที่ส่งมาที่สำนักงานอาหารและยา (อย.) ระบุว่า หากพบอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนในเข็มที่ 1 หากได้รับการฉีดเข็มที่ 2 อาการต่าง ๆ อาจจะพบน้อยหรือไม่พบเลย เช่น อาการไข้ ปวด บวม แดง
ขณะที่อาการปวดกล้ามเนื้อ อ่อนล้า อาจจะยังพบได้ในเข็มที่ 2 เพราะฉะนั้นอาการข้างเคียงต่าง ๆ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ หรือ 1 ใน 3 ของการฉีดวัคซีนอยู่แล้ว