สธ.เร่งตรวจเชื้อโรงงานปราจีนฯ 1,400 ราย คลัสเตอร์สามีภรรยาขายข้าวแกง

คลัสเตอร์โควิดใหม่ ปราจีนบุรี-นครนายก สามีภรรยา ขายข้าวในโรงงาน พบติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย เร่งตรวจเชื้อในโรงงานกว่า 1,400 ราย

วันที่ 9 มี.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่ม 60 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ จากในระบบบริการ 22 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 21 ราย และมาจากต่างประเทศ 17 ราย โดยการระบาดระลอกใหม่ ( วันที่ 15 ธ.ค.63- 8 มี.ค.64) มีผู้ป่วยที่กำลังรักษาอยู่จำนวน 565 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 439 ราย ในโรงพยาบาลสนามและสถานที่กักกันที่มีการรักษาอื่น ๆ อีก 126 ราย มีอาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 9 ราย ขณะที่หายป่วยแล้วรวมทั้งหมด 97.35% จากยอดติดเชื้อระลอกใหม่ทั้งหมด 22,264 ราย และยังไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มเติม

ส่วนกรณีคลัสเตอร์ล่าสุดซึ่งเชื่อมโยงปราจีนบุรี และนครนายก ที่มี 2 สามีภรรยาตรวจพบติดโควิด 19 โดยสามีอายุ 60 ปีและภรรยาอายุ 62 ปี และบุตรสาวเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ที่ จ.นครนายก ผลการสอบสวนโรคพบว่า มีประวัติไปตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานีสัปดาห์ละครั้ง ทุกสัปดาห์ โดยเปิดขายอาหารช่วงกลางคืนที่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี 4 รอบต่อวัน ขณะปรุงอาหารผู้ป่วยไม่สวมหน้ากากอนามัย พูดคุยใกล้ชิดกับพนักงานขายช่วงกลางคืนทั้ง 3 ราย

ทั้งนี้การติดตามผู้สัมผัสที่ จ.ปราจีนบุรี แยกเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน 4 รายคือลูกชาย ลูกสะใภ้ หลาน ลูกสาว ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อทั้งหมด รอตรวจครั้งที่ 2 ที่ร้านขายอาหาร โรงงานแห่งหนึ่งใน อ.เมือง เป็นพนักงานขายช่วงกลางวัน 7 ราย ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อทั้งหมด รอตรวจครั้งที่ 2 พนักงานขายช่วงกลางคืน 3 ราย ตรวจพบติดเชื้อ 3 ราย

และการค้นหาเชิงรุกในโรงงาน รวม 1,428 ราย เป็นพนักงาน 1,405 ราย และรปภ. 23 ราย อยู่ระหว่างรอผล และที่คลินิกแห่งหนึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนโรค เนื่องจากมีประวัติสามีไปเข้ารับการตรวจ หลังเริ่มมีอาการคลั่นเนื้อตัว ปวดเมื่อยตัว เหนื่อย มีไข้ ปวดหัวเล็กน้อยตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนไปตรวจรักษาเพิ่มเติมที่จ.นครนายก ส่วนติดตามที่จ.นครนายก ศูนย์การแพทย์มศว. องครักษ์ จ.นครนายก บุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงสูง 36 ราย ผลตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ รอตรวจครั้งที่ 2 และรายอื่น ๆ ที่ใกล้ชิดอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค

อย่างไรก็ตาม นพ.จักรรัฐ กล่าวอีกว่า ขณะนี้หลายประเทศมีการฉีดวัคซีนโควิดมากขึ้น โดยเฉพาะแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตมีตัวเลขลดลง เช่น สหรัฐอเมริกา จากเคยมีจำนวนผู้ติดเชื้อหลักแสนต่อวัน เหลือ 4.5 หมื่นคนต่อวัน เสียชีวิตจากหลักพัน เหลือไม่ถึง 800 คน เพราะฉะนั้น วัคซีนที่ฉีดไปในหลายประเทศมีส่วนสำคัญทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะผู้ป่วยรุนแรงจนเสียชีวิตลดลง ขณะที่ประเทศไทยและประเทศโดยรอบ หรือแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฉีดไปแล้วกว่า 4 ล้านโดส อย่างสิงคโปร์เป็นประเทศแรกที่ได้ฉีดวัคซีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตคงที่ ขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยก็ไม่มาก มีตั้งแต่หลักหน่วยจนถึงหลักสิบ

ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนของไทย มีผู้ได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ.- 8มี.ค.) 29,900 คน ตอนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 33% โดยผลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ภายหลังได้รับวัคซีนหรืออาการข้างเคียงไม่รุนแรง เช่น มีไข้ต่ำ ปวดศรีษะ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดบริเวณฉีด รายงานผ่านระบบหมอพร้อม รวม 2,380 คน (ร้อยละ 7.96 ของผู้รับวัคซีนทั้งหมด) ส่วนอาการข้างเคียงรุนแรง ซึ่งประกอบด้วยไข้สูง แน่นหน้าอก มีจุดเลือดออกจำนวนมาก มีผื่นขึ้นทั้งตัว อาเจียนมากกว่า 5 ครั้ง ชักหมดสติ ที่ผ่านมามีเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค จำนวน 5 ราย คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาแล้ว 1 ราย อาจเกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่ไม่ใช่การแพ้แบบรุนแรง รอเสนอพิจารณา 4 ราย แต่ทุกรายกลับบ้านหมดแล้วไม่มีรายใดอาการรุนแรงถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล

เมื่อถามถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ต้องมีข้อระวังอย่างไร ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า โดยหลักการจะมีการตรวจคัดกรองเบื้องต้นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นท่านใดที่มีประวัติแพ้วัคซีนมาก่อน หรือแพ้ยามาก่อนจำเป็นต้องบอกเจ้าหน้าที่ให้ทราบว่าแพ้อะไรอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นหลักการของวัคซีนนี้ต้องเป็นเช่นเดียวกับซิโนแวค เพราะฉะนั้นกระบวนการฉีด ตรวจสอบจะใช้หลักการเดียวกัน


ฟฟในส่วนของวัคซีนพาสปอร์ต จากผลการประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยวัคซีนพาสปอร์ต เป็นเอกสารได้รับการรับรองว่าได้รับวัคซีนโควิด19 แล้ว ในประเทศไทย หลักเกณฑ์ก็คือ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน2เข็มแล้วสถานพยาบาลที่ฉีดวัคซีน จะเป็นผู้ออกใบรับรองการฉีดวัคซีนให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากคนไหน จะต้องออกไปต่างประเทศ สามารถนำใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 มาขอรับ วัคซีนพาสปอร์ต หรือสมุดเหลือง ได้ โดยไปสถานพยาบาลที่ฉีดวัคซีนให้ มีค่าธรรมเนียมเล่มละ 50 บาท และหากต้องการในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชัน มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 50 บาท รวมเป็น 100 บาท วัคซีนพาสปอร์ตที่ได้ จะมีอายุ 1 ปี แต่ทั้งนี้การใช้งานวัคซีนพาสปอร์ต ในต่างประเทศจะสามารถใช้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประเทศปลายทางว่าจะยอมรับวัคซีนพาสปอร์ตจากไทยด้วยหรือไม่