หมอธีระวัฒน์ เผยบางแคจำลองสมุทรสาคร ชี้แยงจมูกโอกาสไม่เจอเชื้อสูง

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยกรณี “บางแคเป็นภาพจำลองสมุทรสาคร” ชี้การตรวจแบบแยงจมูกมีโอกาสไม่เจอเชื้อสูง 

วันที่ 16 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตรวจพบการแพร่กระจายเชื้อโรคโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ตลาดบางแค กรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังพบคลัสเตอร์กระจายไปยังพื้นที่ 4 จังหวัด

• ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
• “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
• แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด

ล่าสุด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีหัวข้อนำ ระบุว่า “บางแคคือภาพจำลองของสมุทรสาคร”

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ระบุว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการพิสูจน์รูปแบบ “กระจุกและสามารถกระจาย” ไปได้ทั่ว โดยผ่านทางผู้แพร่เชื้อที่ไม่มีอาการ พร้อมย้ำว่า การตรวจเชิงรุกที่แท้จริงต้องก้าวข้ามข้อจำกัดในการตรวจที่ทำปกติในขณะนี้ ที่หาเชื้อโดยการแยงจมูก ซึ่งมีความผิดพลาดตรวจไม่เจอได้มาก

• พุ่งไม่หยุด! กทม. เผยผลตรวจเชิงรุก “ตลาดบางแค” ติดโควิดเพิ่ม 224 ราย
• คลัสเตอร์ “ตลาดบางแค” พุ่ง 107 ราย ลามติด “ผู้ค้าผัก” เพชรบุรีอีก 3 ราย
• กทม. ปิด 3 วันตลาดบางแค รอยืนยันผลโควิด ขยายเวลาตรวจเชิงรุกถึง 26 มี.ค.นี้

ทั้งนี้ จากความจริงที่ว่า ทำไมในผู้ที่กลับจากต่างประเทศยังคงต้องการตรวจแยงจมูกถึงอย่างน้อยสามครั้งในช่วงกักตัว 14 วัน ด้วยซ้ำ และบทเรียนจากสมุทรสาครหลังจากที่มีการกักตัวผู้ที่ตรวจแยงจมูกครั้งเดียว และกลุ่มที่เหลือให้มีการทำงานต่อเท่ากับปล่อยให้มีการแพร่เชื้อในหมู่กันเองและหกสัปดาห์หลังจากปลายเดือนมกราคม ปรากฏมีผู้ติดเชื้อและแพร่เชื้อได้เพิ่มขึ้นอีก

วิกฤตของการปล่อยให้มีการแพร่เชื้อแม้จะไม่มีอาการ ก็คือเป็นการเปิดโอกาสให้ไวรัสมีการผันแปรหน้าตาผิดเพี้ยนออกไปเรื่อย ๆ และอีกประการหนึ่งก็คือเมื่อถึงระดับที่แพร่เข้าไปในกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวและไม่แข็งแรงจะแสดงอาการขึ้นมาทันทีและเกิดเป็นอาการหนักต้องเข้าโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อย ๆ

หัวใจของการควบคุมจำกัดการระบาดและป้องกัน หลังจากที่มีประสบการณ์ตั้งแต่มกราคม 2563 ก็คือ ตรวจด้วยวิธีที่เข้าถึงได้ทุกคน ในเวลารวดเร็ว ประหยัดและไม่หลุด หลังจากนั้นแยกตัว

ขณะเดียวกัน ได้รับวัคซีนในประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้รับทราบแล้วว่า กลุ่มใดประเภทใดจะเหมาะกับวัคซีนชนิดไหน ที่สามารถลดทอนผลข้างเคียงให้มากที่สุด นั่นคือกลุ่มผู้สูงวัย มีโรคประจำตัว ที่ติดเชื้อง่าย เสียชีวิตได้เมื่อติดเชื้อ กลับจะได้รับผลแทรกซ้อนจากวัคซีนมากที่สุด ดังนั้นในกลุ่มนี้น่าจะหันไปเลือกวัคซีนที่เป็นเชื้อตายหรือเป็นโปรตีนมากกว่า