“หมิว สิริลภัส” เปิดใจถูกตำรวจคุกคามทางเพศ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

“หมิว สิริลภัส” เปิดใจเสียงสั่น ซัดกลับ‘ส.ต.ท.’อ้างเข้าห้องน้ำผิด งงตำรวจมาคุกคามเสียเอง ทั้งที่ต้องดูแลประชาชน พร้อมเตรียมไปเผชิญหน้าคู่กรณี ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

วันที่ 22 มีนาคม 2564 “หมิว สิริลภัส กองตระการ” นักแสดงสาว แถลงเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เข้าไปใช้บริการห้องน้ำในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนรัชดาภิเษก แล้วพบถูกชายคล้ายตำรวจแอบถ่ายในห้องน้ำตามรายงานของสด ว่า เหตุเกิดวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ไปส่งเพื่อนที่ลาดพร้าวซอย 8 และกำลังไปคุยเรื่องเพลงต่อ ก่อนแวะปั๊มเข้าห้องน้ำ

ในวันนั้นมีการชุมนุมเกิดขึ้นและเดินทางคนเดียว จึงระวังตัวมาขึ้น โดยตอนจอดรถเห็นอีกคันจอดข้าง ๆ ซึ่งเราก็ระวังตัว ก่อนหยิบมีดปอกผลไม้และมือถือไปเข้าห้องน้ำ ตอนเราเดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงอีกคนเข้าห้องน้ำตามมา ซึ่งเราก็ระวังตัวอยู่แล้ว จึงได้ยืนบนชักโครกขึ้นมาดูห้องข้าง ๆ พบว่าประตูห้องน้ำข้าง ๆ ไม่ล็อกและเสียงเงียบ ไม่ได้เตรียมทำธุระส่วนตัวหรืออะไร ทำให้พบถึงความผิดปกติ แต่เราก็ไม่กล้าไปดู

ก่อนมีจังหวะที่อีกฝ่ายมองขึ้นมาพบเป็นชายหัวเกรียนและเป็นไปตามคลิป เขาก็รีบออกจากห้องน้ำไปและเราก็ถามว่าเข้าห้องน้ำหญิงมาทำไม แถมยังถือโทรศัพท์มือถืออยู่ แต่ยังไม่ได้ถ่าย ถ้าจะถามมีคลิปหรือไม่ คงไม่มีแน่นอน

“ชายคนดังกล่าวตัวค่อนข้างใหญ่ เราเลยไม่กล้าไปอะไรมาก ก่อนจะรีบขึ้นรถ ซึ่งเราตกใจมาก เพราะเป็นรถตำรวจ ทำให้งงว่าคืออะไร เพราะเป็นการคุกคามทางเพศ โดยช่วงนั้นมีเด็กปั๊มอยู่ แต่ไม่มีคนอื่น ตอนนั้นอีกฝ่ายไม่ได้อธิบาย บอกแค่ว่าไม่มีอะไร”

เมื่อถามว่าตำรวจอ้างไม่ทันดูเป็นห้องน้ำหญิง หมิว สิริลภัส กล่าวว่า วันนี้หมิวจะไปพบคู่กรณีที่ สน.พหลโยธิน โดยห้องน้ำมีป้ายชัดเจนเป็นห้องน้ำหญิงและชาย อีกทั้งทางเข้าคนละทางกัน โดยช่วงนั้นก็มีไฟสว่าง จะมาอ้างได้ไงว่าไม่ได้ดูป้าย ซึ่งไม่มีทางจะเข้าใจผิดและเดินเข้าห้องน้ำผิดได้ อยากให้ดูกล้องวงจรปิดน่าจะชัดเจนกว่านี้

“อยากถามว่าถ้าเราเข้าห้องน้ำผิด ออกมาเจอก็คงต้องขอโทษและอธิบาย แต่อีกฝ่ายปฏิเสธว่าไม่มีอะไรและมีเจตนาบริสุทธิ์ นอกจากนี้เมื่อเข้าห้องน้ำไป อีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำธุระส่วนตัวอะไรด้วย เหตุการณ์นี้เป็นการคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองหรือไม่ ต้องไปถามอีกฝ่าย โดยเราไม่อยากตีความอะไร ก่อนหน้านี้เคยเจอแค่คุกคามในเน็ต แต่ไม่เคยเจอมาติดตามแบบนี้”

เมื่อถามถึงเรื่องที่เตรียมมีดไว้ หมิว สิริลภัส กล่าวว่า เราเป็นผู้หญิง และเดินทางคนเดียว คงไม่ผิดที่เราต้องเตรียมพร้อมไว้ป้องกัน เราไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอาวุธทำร้ายใคร โดยเราพกมาตลอด และวันนั้นเรารู้สึกไม่ปลอดภัย

“ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับคู่กรณี แต่มีรองผกก.จร.สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ติดต่อมา และชี้แจงว่าไม่มีการรายงานอะไรมา โดยจะสอบสวนให้เร็วที่สุด ซึ่งคู่กรณีอ้างว่าไปทำธุระในห้องน้ำและได้ยินเสียงโวยวายจากหมิว”

“เราค่อนข้างมั่นใจอีกฝ่ายไม่ได้ถ่ายคลิปเราแน่นอน ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ขอดูมือถือ เพราะกลัวละเมิดสิทธิอีกฝ่ายด้วย ซึ่งถ้าอีกฝ่ายไม่ตั้งใจและเข้าห้องน้ำผิด เราก็พร้อมยกโทษให้ เพราะอีกฝ่ายอาจโดนลงโทษหรือไม่ไล่ออก แต่อีกฝ่ายมากล่าวอ้างว่าเราเข้าใจผิดเอง และมากล่าวหาว่าเรา จึงตัดสินใจให้ดำเนินการเต็มที่”

เมื่อถามว่าอีกฝ่ายเป็นตำรวจมั่นใจในความยุติธรรมหรือไม่ หมิว สิริลภัส กล่าวว่า เรื่องนี้ผ่านมาแล้ว 2 สัปดาห์ เรื่องก็เงียบ จนกระทั่งเราโพสต์และเป็นข่าว เรื่องถึงคืบหน้า จึงอยากให้ประชาชนช่วยติดตามเรื่องนี้ เราแค่อยากได้ความปลอดภัย หน้าที่ของตำรวจคืออะไร ไม่ใช่ดูแลประชาชนหรือ และตอนนี้เราถูกคุกคามจากอาชีพที่ควรได้รับความวางใจและดูแล แต่กับมาคุกคามประชาชน แล้วเราจะไว้ใจใครได้อีก เมื่อตำรวจมาทำเสียเอง แต่เชื่อตำรวจหลายนายต้องการให้ความยุติธรรม โดยอยากให้เกิดขึ้น เพราะความเชื่อมั่นและเชื่อใจของตำรวจและประชาชนเริ่มห่างกัน

เมื่อถามว่าถ้าอีกฝ่ายขอไกล่เกลี่ย หมิว สิริลภัส กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องทางคดีความ แต่ขอคุยกับอีกฝ่ายก่อน โดยเราอยากเห็นตำรวจทำงานกันอย่างไรและสามารถทวงความยุติธรรมได้หรือไม่ อยากให้คดีเราดำเนินไปรวดเร็วเหมือนอีกหลายคดี

เมื่อถามว่าถ้าอีกฝ่ายอ้างถูกนายสั่งให้มาติดตาม หมิว สิริลภัส กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า ก็คงถามว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ถ้าทำแบบนี้แล้ววันนึงไปเกิดกับภรรรยาและครอบครัวเขา มันจะเกิดอะไรขึ้น อยากให้คิดว่าถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมา ครอบครัวก็จะลำบากด้วย

ส.ต.ท. ขอโทษ บอกเบลอจากทำงานหนัก

จากนั้น เวลา 17.00 น. ที่ สน.พหลโยธิน น.ส.สิริลภัส หรือหมิว กองตระการ ดาราสาว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน เพื่อสอบปากคำกรณีถูก ส.ต.ท.ศวัสกร หนูรี ผบ.หมู่จราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ ตามเข้าห้องน้ำจนเป็นประเด็นในสังคม โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง

ต่อมา ส.ต.ท.ศวัสกร กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันดังกล่าวนั้นตนทำงานหนัก โดยเข้าเวรงานจราจรตั้งแต่เช้ามืดและเลิกงานในเวลา 23.00 น. ขณะนั้นกำลังจะไปรับเพื่อนในย่านพหลโยธิน จึงจอดพักอยู่ที่สโมสรตำรวจ ก่อนจะขับรถมาตามถนนรัชดาภิเษก กระทั่งเกิดปวดท้องกะทันหันจึงแวะเข้าปั๊มน้ำมันดังกล่าว ก่อนจะลงไปทำธุระ แต่ด้วยความที่พักผ่อนน้อยจึงมีอาการเบลอ เข้าห้องน้ำผิด กระทั่งเจอ น.ส.สิริลภัส ร้องโวยวายจึงรีบวิ่งหนีออกมาขึ้นรถขับออกไป

ยอมรับว่าขณะนั้นตกใจมากจึงไม่ได้อยู่อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ น.ส.สิริลภัส ทราบ ยืนยันว่าไม่ได้ติดตามมาจากที่ใด และไม่มีการใช้โทรศัพท์แอบถ่าย ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากผลการสอบสวนออกมาว่ามีความผิดจริงก็ยอมรับผิดทั้งทางอาญา และทางวินัย อยากจะขอโทษ น.ส.สิริลภัส อีกครั้ง ยืนยันไม่มีเจตนาจะทำให้ตกใจ สาเหตุมาจากการพักผ่อนน้อยเท่านั้น