สาธารณสุข เปิดรายชื่อ 10 ประเทศเดินทางเข้าไทย ไม่ลดวันกักตัว

กระทรวงสาธารณสุข รายงานผลฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 1.3 แสนโดส พบแพ้ 2 ราย เหตุมีประวัติภูมิแพ้-แพ้อาหาร พร้อมเปิดรายชื่อ 10 ประเทศมีไวรัสกลายพันธุ์เดินทางเข้าไทยหลัง 1 เม.ย. 64 กักตัว 14 วันเหมือนเดิม

วันนี้ 26 มี.ค.2564 ในแถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด19 ประเทศไทย และความคืบหน้าวัคซีนโควิด ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้มีการกระจายวัคซีนซิโนแวกไปแล้วทั้งหมด 190,720 โดส ใน 13 จังหวัด ส่วนแอสตร้าเซนเนก้า 54,980 โดส แบ่งเป็นสมุทรสาคร 30,000 โดส, นนทบุรี 5,200 โดส, ปทุมธานี 5,000 โดส, สมุทรปราการ 5,000 โดส, กรุงเทพฯ 9,180 โดส

สำหรับยอดการฉีด วันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา รวม 15,589 โดส มีผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 12,239 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 3,350 ราย ทำให้จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ.-25 มี.ค.) อยู่ที่ 136,190 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 121,392 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 14,798 ราย

ในจำนวนนี้มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงที่ได้รับการยืนยันจากคณะผู้เชี่ยวชาญแล้ว 2 รายว่าแพ้วัคซีน โดยรายที่ 1 เพศหญิงอายุ 26 ปี จาก จ.สมุทรสาคร มีประวัติแพ้กุ้งและแพ้ไรฝุ่น หลังฉีดวัคซีนประมาณ 10 นาที พบมีผื่นแดงคันบริเวณที่ฉีดและศีรษะ ตามด้วยอาการแดงร้อนบริเวณหูและใบหน้า มีตาบวมเล็กน้อย ต่อมามีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว เวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ใจสั่น หายใจไม่สะดวก ได้รับยาเข้าทางหลอดเลือดดำ และพักสังเกตอาการที่ห้องฉุกเฉินประมาณ 4 ชั่วโมงอาการดีขึ้น ตอนนี้กลับบ้านแล้ว

ส่วนรายที่ 2 เป็นเพศหญิงอายุ 30 ปี ชาว จ.ราชบุรี ตอนแรกปฏิเสธประวัติโรคประจำตัว และประวัติแพ้ยาหรือแพ้อาหาร หลังฉีด 30 นาที มีผื่นนูนแดงขึ้นบริเวณคอ หลัง แขน หน้าอก คันทั้งตัว รู้สึกว่าหน้าบวม คลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน จุกแน่นบริเวณลิ้นปี่ หน้าอก หายใจเหนื่อย ได้รับยาเข้าทางหลอดเลือดดำ รับไว้สังเกตอาการที่โรงพยาบาล 1 คืน อาการดีขึ้น ตอนนี้กลับบ้านได้แล้ว

นอกจากนี้ นพ.โอภาส ยังกล่าวถึงมาตรการผ่านคลายสำหรับผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยว่า จะมีการลดวันกักตัวทั้งคนไทยและต่างชาติจาก 14 วันเหลือ 10 วัน ตามประกาศ ศบค. ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564 เป็นต้นไป โดยมีข้อแม้ว่าถ้าเป็นคนต่างชาติ จะต้องมีการตรวจหาเชื้อไวรัสก่อนว่าไม่พบโควิด19 แต่คนไทยไม่ต้องตรวจเพราะจะได้รับการตรวจในสถานกักกัน แต่ก็จะมีข้อยกเว้นในบางพื้นที่ หรือประเทศต้นทางที่มีการรายงานพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์

ซึ่งขอชี้แจงว่าเชื้อโควิดนี้สามารถลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา ถือเป็นธรรมชาติของไวรัสทุกตัว แต่การกลายพันธุ์แล้วมีผลสำคัญคือ 1.กลายพันธุ์แล้วระบาดได้ง่ายขึ้น 2.การกลายพันธุ์สามารถทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันโรคได้น้อยลง ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องพิจารณายกเว้นบางประเทศที่พบการกลายพันธุ์ จากการรายงานพบว่ามีอย่างน้อย 10 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ได้แก่

ภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้

1.สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
2.สาธารณรัฐซิมบับเว
3.สาธารณรัฐโมซัมบิก
4.สาธารณรัฐบอตสวานา
5.สาธารณรัฐแซมเบีย

ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก

6.สาธารณรัฐเคนยา
7.สาธารณรัฐรวันดา

ภูมิภาคแอฟริกากลาง

8.สาธารณรัฐแคมารูน
9.สาธารณรัฐประชาธิไปตยคองโก
10.สาธารณรัฐกานา

ส่วน ประเทศที่ตรวจพบเชื้อกลายพันธุ์ในสถานที่กักกันประเทศไทย ได้แก่ สาธารณรัฐแทนซาเนีย และสาธารณรัฐโมซัมบิก

อย่างไรก็ตามประเทศเหล่านี้ หลัง 1 เม.ย.2564 จะมีการกักตัว 14 วันเท่าเดิม และข้อมูลนี้จะส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ และประกาศในเว็บไซต์กรมควบคุมโรค ซึ่งจะมีการอัพเดตข้อมูลทุก 2 สัปดาห์