นนทบุรี พบคนติดโควิด ไม่ยอมให้ข้อมูล 2 ราย

นนทบุรีเจอคนติดโควิดไม่ให้ข้อมู 2 คน
ภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ในจังหวัดนนทบุรี (ภาพจากเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 นนทบุรี)

จังหวัดนนทบุรีแจ้งพบผู้ติดโควิด 2 ราย ไม่ยอมให้ข้อมูล เป็นพนักงานบริษัทเอกชนกับข้าราชการ

วันที่ 7 เมษายน 2564 เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 นนทบุรี รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยแจ้งไทม์ไลน์ผู้ป่วย รายที่ 347 และ 351 (รายที่ 231 และ 235 ของการระบาดรอบใหม่) จ.นนทบุรี ระบุว่า ผู้ป่วยไม่ยอมให้ข้อมูล อยู่ระหว่างดำเนินการตาม พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า รายที่ 347 นั้น เป็นชายไทย อายุ 52 ปี อยู่ที่ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ป่วยรายนี้ ทำงานที่บริษัทข้าวสารซาวด์ จำกัด

อีกรายเป็นผู้ป่วย รายที่ 351 เป็นชายไทย อายุ 57 ปี อยู่ที่ ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้ป่วยรายนี้ อาชีพรับราชการ สำนักงานศาลยุติธรรม

ต่อมา บัญชีทวิตเตอร์ชื่อ “สื่อศาล” ซึ่งเป็นของประชาสัมพันธ์ศาลยุติธรรม ทวีตข้อความว่า จากกรณีที่มีการรายงานว่าข้าราชการสำนักงานศาลยุติธรรมติดโควิด 19 แล้วไม่ยอมให้ข้อมูล สำนักงานศาลยุติธรรมจะประสานขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ หากพบว่าเป็นบุคลากรฯ ภายใน สำนักงานศาลยุติธรรมจะพิจารณาดำเนินการต่อไป

ขณะที่ นพ.สฤษดิ์ เจริญไชย รองนพ.สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นนทบุรี ได้โพสต์ เฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอให้รีบเปลี่ยนใจให้ข้อมูล ก่อนจะบังคับใช้กฎหมาย ตามรายงานของมติชน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 17) ที่ประกาศเมื่อวันที่  6 มกราคม 2564 ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ระบุว่า ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและควบคุมโรคเป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน การฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 ด้วย

โดยมาตรา 49 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการ คณะกรรมการด้านวิชาการหรือคณะอนุกรรมการตามมาตรา 18 หรือคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตามมาตรา 22(6) หรือคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครมาตรา 28(6) หรือคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 45(1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 50 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา 51 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (1)(2)(4) หรือ (6) มาตรา 39 (1)(2)(3) หรือ (5) มาตรา 40 (5) หรือไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39 (4) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา 52 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (3)(4)(7) หรือ (8) หรือมาตรา 40 (3) หรือ (4) หรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตามมาตรา 35 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 53 ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 38 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา 54 เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 40 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 55 ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 45 วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท