กทม. เผย “ผู้ป่วยโควิด” เลือกโรงพยาบาลรักษา ต้นเหตุปัญหาเตียงไม่พอ

กทม.เผยเตียงรับผู้ป่วยโควิด ยังมีอีก 4,244 เตียงเปิดแผน 3 ระดับรับมือยอดรายวันพุ่ง เพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลกทม. เตรียม Hospitel เสริมโรงพยาบาลสนามที่บางบอนและหนองจอก 550 เตียง ชี้รอบนี้มีผู้ป่วยระดับกลาง-บนมาก ทำให้เกี่ยงโรงพยาบาลรักษา ไม่ยอมไปตามที่เจ้าหน้าที่บอก 

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 เม.ย. 2564 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลในสังกัดของกทม. มีศักยภาพรับผู้ป่วยรักษาโรคโควิด-19 ได้จำนวน 9,183 คน รับรักษาแล้ว 4,339 คน ยังมีศักยภาพรองรับได้อีก 4,244 คน 

กาง 3 แผนบริหารเตียงรับผู้ติดเชื้อ

ทั้งนี้ กทม. แบ่งแผนการรับผู้ป่วยออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 การเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัดกทม.ให้รองรับผู้ป่วยโควิดให้มากขึ้น ทั้งในโรงพยาบาลในสังกัด กทม. และนอกสังกัด 

ระดับที่ 2 การเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอาการ (Hospitel) สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ให้รักษาตัวในโรงแรมที่จัดหาไว้ให้ 

และระดับที่ 3 จัดทำโรงพยาบาลสนามเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับผู้ป่วย 

เพิ่มความเร็วรับ-ส่งผู้ป่วย

โดยขณะนี้กทม.ได้พร้อมรองรับ ณ โรงพยาบาลเอราวัณ 1 (ศูนย์เฉลิมพระเกียรติบางบอน) สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 200เตียง และโรงพยาบาลเอราวัณ 2 (ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนาหนองจอก) สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 350 เตียง 

นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลกองทัพและโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยที่ยังสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก ในส่วนของความล่าช้าในการรับ-ส่งผู้ป่วย ได้เร่งเพิ่มศักยภาพการทำงานโดยให้ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักเทศกิจและ 50 สำนักงานเขตจัดรถร่วมให้บริการรับส่งผู้ป่วยที่ตกค้างเพื่อให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็วและปลอดภัยต่อไป 

แจงปมที่มาทำให้เตียงไม่พอ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างแถลงข่าวทางผู้บริหารกทม.ได้กล่าวถึงกรณีเตียงไม่พอว่า ในการบริหารจัดการเตียง มีประสานหลายๆหน่วย จริงๆที่มีปัญหาว่าเตียงในกทม.ไม่พอ จริงๆพอ แต่ที่ไม่พอคือความต้องการที่จะเลือกตามโรงพยาบาล 

“ซึ่งมีคนไข้จำนวนหนึ่งที่ประสานให้ไปโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลไม่ได้เลือกไว้จะไม่ยอมไป จะเลือกไปโรงพยาบาลที่ระบุไว้ คือโรงพยาบาลเอกชนจึงทำให้เกิดปัญหาว่าเตียงไม่พอ ตามกฎหมายแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่บอกให้ไปโรงพยาบาลไหนก็ต้องไปตามกฎหมาย  เพื่อเป็นการควบคุมโรค “

เผยโควิดรอบนี้เป็นคนระดับกลาง-บน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากติดเชื้อในครั้งนี้ เป็นกลุ่มคนระดับกลางถึงระดับบน ซึ่งมีจำนวนมากที่เลือกโรงพยาบาล ไม่ไปรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ได้เลือก จึงทำให้เกิดประเด็นว่าเตียงไม่พอ