กระทรวงสาธารณสุข เปิดแผนจัดหาวัคซีนอีก 37 ล้านโดส โดยภาครัฐ 30 ล้านโดส เอกชน 7 ล้านโดส เพื่อกระจายฉีดให้ครอบคลุมประชากร 70% สร้างภูมิคุ้มกันหมู่
วันที่ 28 เม.ย.2564 นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด19 ว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีน ขณะนี้ฉีดไปแล้ว 1,279,713 โดส แบ่งเป็นผู้รับเข็ม 1 จำนวน 1,038,960 คน ได้ครบ 2 เข็มแล้วจำนวน 240,753 คน ซึ่งในช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่วัคซีนยังมีจำกัด ที่ผ่านมาจึงเน้นฉีดให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ก่อนทั้งภาครัฐและเอกชน และใช้ในการควบคุมโรคในพื้นที่ที่มีการะบาด แต่เมื่อวัคซีนล็อตใหญ่ที่รัฐบาลสั่งซื้อไว้จากแอสตร้าเซนเนก้ามาถึง จะขยายการฉีดไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยง และเพิ่มอัตราฉีดให้มากและเร็วขึ้นได้ตามจำนวนวัคซีนที่มี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ประเทศไทยจัดหาวัคซีนได้แล้ว 63 ล้านโดส แต่หากจะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่จึงจำเป็นต้องฉีดให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากร ซึ่งคนไทยมี 70 ล้านคน จึงต้องฉีดให้ได้ในจำนวน 50 ล้านคน โดยต้องใช้วัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส ดังนั้นต้องจัดหาวัคซีนเพิ่มอีก 37 ล้านโดส
รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนดำเนินการร่วมกันกับภาคเอกชน แบ่งเป็น การจัดหาของภาครัฐ 30 ล้านโดส โดยดูเทคโนโลยีวัคซีนอื่นๆ ทั้งจากบริษัท ไฟเซอร์ ชนิด mRNA วัคซีนสปุตนิก และวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มเดียวกันกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า อย่างไรก็ตามจะต้องหาเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้เรามีทางเลือกมากขึ้น ส่วนวัคซีนซิโนแวก ก็จะมีการจัดหาเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
ส่วนภาคเอกชน มีความยินดีสนับสนุนทั้งงบประมาณและการจัดหาเข้ามาเองเพื่อฉีดให้กับบุคลากรของตนเอง โดยจะจัดซื้อวัคซีนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ให้บริการในภาครัฐ ได้แก่ วัคซีนจากบริษัทโมเดอร์นา หรือซิโนฟาร์ม หรือวัคซีนอื่นที่จะมีการขึ้นทะเบียนในอนาคต ซึ่งตามแผนหากเราจัดหาเพิ่มได้ 37 ล้านโดส ตามที่กำหนดประมาณเดือน ต.ค. และขณะเดียวกันที่มีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในเดือน มิ.ย. เราก็จะสามารถฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมร้อยละ 70 ของประชากรได้เลย