ไทยจ่อขึ้นที่ 2 อาเซียน ฉีดวัคซีนโควิดจำนวนสูงสุด

ไทยฉีดวัคซีนอันดับ2อาเซียน

เพจไทยคู่ฟ้าโพสต์ข่าวดี ประเทศไทยกำลังจะเลื่อนขึ้นเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน ด้วยการระดมฉีดวัคซีนอีก 6 – 8 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า ของ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผยแพร่ข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไทย ระบุว่า ข่าวดี! ไทยเร่งระดมฉีดวัคซีนทะลุ 3 ล้านโดสแล้ว รายงานล่าสุดเมื่อ 25 พฤษภาคม 2564 สถิติการเร่งระดมฉีดวัคซีนของไทยขึ้นเป็นอันดับ 5 ของอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ กัมพูชา

โดยฉีดวัคซีนแล้วรวม 3,024,313 โดส และจะเลื่อนขึ้นเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน ด้วยการระดมฉีดวัคซีนอีก 6 – 8 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้

ข้อมูลซึ่งจัดทำขึ้นโดย กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระบุว่า ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 มีวัคซีนที่จัดสรรกว่า 3.56 ล้านโดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 3.44 ล้านโดส และแอสตร้าเซนเนก้า 1.15 แสนโดส โดยมีการฉีดวัคซีนแล้ว 3.02 ล้านโดส มีประชากรที่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 3.09% ฉีดเข็มที่ 2 แล้ว 1.48%

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ได้เสนอให้การฉีดวัคซีนเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่จะต้องดำเนินการอย่างครบวงจร ทั้งการจัดหา การกระจาย ไปจนถึงการฉีดด้วย เพื่อ เร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทยของเรา แต่สิ่งที่กล่าวมาแล้วนั้น จะเป็นจริงไปไม่ได้เลย หากพี่น้องประชาชนในประเทศไทย ไม่มาเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19

“ผมจึงอยากขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกคน มาเข้ารับการฉีดวัคซีนกัน ให้มากที่สุด ประเทศไทยจึงจะไปต่อได้ ผมขอยืนยันว่า วัคซีนที่รัฐบาลนำเข้าทุกชนิด มีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก มีคนฉีดไปแล้วหลายสิบล้านคน รวมทั้งผู้นำประเทศทั่วโลก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกต่างยืนยันว่า วัคซีนโควิดทุกชนิด สามารถป้องกัน การป่วยรุนแรงหากติดเชื้อและป้องกันการเสียชีวิตได้เกือบ 100% ส่วนโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงนั้น มีน้อยมากๆ หากเปรียบเทียบกันแล้ว โอกาสในการติดโควิด และเสียชีวิตจากโควิดนั้นมีสูงกว่า การฉีดแล้วเกิดผลข้างเคียงหลายพันเท่า  และในการฉีดแต่ละครั้ง จะมีแพทย์ผู้ทำการประเมิน ความเหมาะสม และคอยเฝ้าดูอาการหลังฉีดอีกด้วย ซึ่งผมเอง รวมทั้งคณะรัฐมนตรี สส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านต่างก็ฉีดวัคซีนโควิดกันไปแล้วโดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ