ประยุทธ์-ประวิตร และสุชาติ รมว.แรงงาน คิกออฟศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตน ม.33 ตั้งเป้า 20 วัน ฉีดได้ 1 ล้านคน
วันที่ 7 มิถุนายน 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารสถานพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงมหาดไทยโดยกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงการคลังโดยธนาคารกรุงไทย และสถานพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม
ซึ่งจะให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้แจ้งความประสงค์ต้องการรับวัคซีนไว้กับฝ่ายบุคคลของสถานประกอบการต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้บันทึกข้อมูลเข้าระบบ e-service ของสำนักงานประกันสังคมไว้แล้ว ทั้งนี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในสถานประกอบการ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่แรงงาน ซึ่งจะส่งผลให้ภาคธุรกิจสามารถขับเคลื่อนได้ต่อไป
และเพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว โดยระบบการจัดคิวการฉีดวัคซีน จะเป็นไปตามขั้นตอนที่นายจ้างแจ้งความประสงค์ผ่านระบบ e-service ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้กำหนดจุดฉีดไว้ทั้งสิ้น 45 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร อาทิ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซี ดาวคะนอง เป็นต้น
รวมทั้ง ณ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสถานประกอบการที่ลูกจ้างหรือผู้ประกันตนทำงานอยู่ ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 12 ได้เตรียมพร้อมสถานที่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อุปกรณ์ทางการแพทย์ ไว้ให้บริการเรียบร้อยครบถ้วนทุกจุด มีเป้าหมายในการฉีดให้ได้วันละ 50,000 คน หรือ 1 ล้านคนภายใน 20 วัน