วันนี้ (18 มิ.ย.) ลุ้น ศบค.ชุดใหญ่ คลายล็อกกิจกรรม เปิดร้านอาหารเต็มรูปแบบ

ลุ้นเคาะเปิดร้านอาหารเต็มรูปแบบ
REUTERS/Athit Perawongmetha

วันนี้ ลุ้น ศบค.ชุดใหญ่ เคาะคลายล็อกกิจจกรรม เปิดร้านอาหารเต็มรูปแบบ

วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณามาตรการคลายล็อกให้กิจการอื่น ๆ เช่น ผู้ประกอบการร้านอาหาร

โดยระบุว่าให้รอกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอมาตรการเข้ามา ยืนยันว่าที่ผ่านมาการทำงานของ ศบค.ไม่ใช่เป็นการสั่งการ แต่บูรณาการขับเคลื่อนทำงานร่วมกัน หากเป็นเรื่องการควบคุมโรค และรักษาพยาบาลการแพทย์ต้องฟังจาก สธ. นอกนั้นก็ต้องหารือกับกระทรวงอื่น ๆ  เมื่อมีการเสนอมาตรการมาจาก สธ.ทาง ศบค.ก็พร้อมพิจารณา

สำหรับแนวโน้ใในการเปิดร้านอาหารตามปกติ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ปัจจุบันร้านอาหารก็เปิดให้บริการอยู่แล้ว หรือหากจะเปิดเต็มรูปแบบ หรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องฟังจาก สธ.เป็นหลัก

“เราก็เห็นใจ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ก็สั่งให้ดูแล แต่อย่างที่บอก ต้องดูมาตรการการควบคุมโรคว่าจะสามารถผ่อนคลายมาตรการได้อย่างไร ซึ่งจะมีการเสนอมาตรการให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณา วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายนนี้ เพราะทุกครั้งหากมีมาตรการอะไรออกมาจะต้องเริ่มต้นจาก สธ.” พล.อ.ณัฐพลกล่าวและว่า

“ยืนยันว่าเราทำงานร่วมกันทั้งหมด ไม่ใช่ ศบค.คิดสั่งการเองทุกอย่าง หาก สธ.เสนอก็ต้องดูว่ากระทรวงมหาดไทย (มท.) สามารถดำเนินการตามมาตรการ และบังคับใช้ได้หรือไม่ หรือฝ่ายความมั่นคงสามารถทำงานได้หรือไม่”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วานนี้ (17 มิ.ย.) สมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิง นำโดย นายปริญ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ประสานงาน นำกลุ่มผู้ประกอบการอาชีพธุรกิจบันเทิง ธุรกิจกลางคืน, ตัวแทนนักดนตรีกลางคืน, ตัวแทนกลุ่มผู้จัดงานอีเวนต์, ตัวแทนอาชีพอิสระ และตัวแทนชมรมคราฟต์เบียร์ เข้ายื่นจดหมายผ่อนปรนมาตรการควบคุม 8 ข้อ ถึง “นายชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจบันเทิงธุรกิจกลางคืน-ธุรกิจบันเทิง และกลุ่มอาชีพอิสระที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดมาตลอดระยะเวลา 200 วันที่ผ่านมา โดยคำสั่งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เมษายน สร้างความเสียหายต่อมูลค่ารวมทางเศรษฐกิจกว่า 1.3 แสนล้านบาท และส่งผลให้ธุรกิจปิดกิจการ ปัญหาว่างงาน ตามมาทั้งระบบ

ข้อเสนอเพื่อผ่อนปรน-เยียวยา ทั้ง 8 ข้อ มีดังนี้

  1. ยกเลิกคำสั่งปิดสถานบันเทิงแบบเหมารวม โดยให้ปิดเฉพาะสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 14 วัน และให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้กักตัว
  2. ข้อให้มีคำสั่งปลดล็อกเพื่อให้ธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงได้กลับมาเปิดบริการ และสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของ ศบค.เพื่อรักษามาตรฐานการควบคุมโรค
  3. ผ่อนปรนให้สามารถขายแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านค้าได้ เนื่องจากไม่พบข้อมูลบ่งชี้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยในการก่อโรค
  4. ผ่อนปรนให้มีการจัดมหรสพโดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของ ศบค.เพื่อรักษามาตรฐานการควบคุมโรค
  5. พิจารณาการจัดสรรฉีดวัคซีนให้ผู้ประกอบการ ผู้บริการ และ/หรือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงโดยเร็ว
  6. พิจารณาให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการเยียวยา การพักชำระหนี้ และ/หรือ การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางธุรกิจและรักษาการจ้างงานพนักงานจากการปิดธุรกิจชั่วคราว รวมถึงกลุ่มอาชีพอิสระที่ไม่ได้รับโอกาสให้เขาถึงแหล่งการเงินเหล่านี้ พร้อมลดหย่อนภาษี
  7. เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน และ/หรือ ประชาชนในกลุ่มภาคธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าร่วมรับฟัง เสนอแนะ พูดคุย ในกระบวนการออกมาตราการและนโยบายต่าง ๆ
  8. เปิดช่องทางการสื่อสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการจากประชาชนที่เดือดร้อน